15 กันยายน 2551

ไม่ต้าน"เขยแม้ว" "ก๊กเนวิน"พร้อมรับมติ"พปช."

"3 ส."เดินสายแจ้ง 5 พรรค"สมัคร"วางมือแล้ว ขอเสียงผนึกตั้ง รบ.ใหม่ ทุกสำนักไม่ขัดเสนอใครรับได้ทั้งนั้น "สมชาย"เขินเก้าอี้นายกฯ ขอบคุณ"เสนาะ"ให้เครดิต ปัด 2 ขั้วงัดข้อแย่งเก้าอี้ ก๊กใหญ่อีสานรับได้หากพรรคมีมติดันน้องเขยทักษิณ "เนวิน"ปลง บอกอยากเสนอใครก็ทำไป ยังฝันได้เก้าอี้ รมต.แบ่ง ส.ส.กลุ่มเพิ่มอีก 2 ตำแหน่ง "ชวน"ข้องใจ รอถาม"สุเทพ"เหตุเชียร์"ส.สมชาย"

@ "3ส."แจ้ง5พรรค"สมัคร"วางมือ

แกนนำพรรคพลังประชาชน (พปช.) 3 คน ประกอบด้วย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค เดินทางไปพบกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ตลอดวันที่ 14 กันยายน โดยเวลา 12.00 น. พบแกนนำพรรคเพื่อแผ่นดิน เวลา 13.00 น. พบนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ที่บ้านพักเมืองทองธานี เวลา 14.30 น. พบแกนนำพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และเวลา 17.00 น. พบแกนนำพรรคมัชฌิมาธิปไตยที่บ้านพักย่านสนามบินน้ำของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคมัชฌิมา ธิปไตย ก่อนที่เข้าพบนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ที่บ้านพักย่านจรัญ สนิทวงศ์ ในเวลา 21.00 น. ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษก พปช. แถลง ณ ที่ทำการพรรค อาคารไอเอฟซีทีว่า แกนนำพรรคทั้ง 3 คน จะไปแจ้งพรรคร่วมรัฐบาลว่า ขณะนี้นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรค อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศวางมือทางการเมืองเป็นที่ชัดเจนแล้ว ซึ่งในวันที่ 15 กันยายน พปช.จะประชุมเพื่อวางตัวบุคคลเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และจะแจ้งให้พรรคร่วมรัฐบาลทราบอย่างเป็นทางการก่อนที่จะลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 17 กันยายน ทั้งนี้ยืนยันว่า ที่ได้แถลงไปในฐานะโฆษกพรรค ว่าพรรคพลังมีมติเสนอชื่อนายสมัครเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นมติของพรรคจริง แต่เมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา เกิดสถานการณ์ที่ทำให้หัวหน้าพรรคมองเห็นถึงความชัดเจนในเรื่องต่างๆ จึงขอวางมือทางการเมืองเพื่อเสียสละให้การเมืองเดินหน้าต่อไปได้

@ อ้อมแอ้มหันดัน"เลี้ยบ"นั่งนายกฯ

"ต่อไปนี้จะเป็นภาระของพรรคในการสรรหานายกฯ คนใหม่ โดยจะคำนึงถึงเสียงของประชาชนให้มากที่สุด และพรรคจะเดินหน้าสร้างความสมานฉันท์ในสังคม เพื่อทำให้การเมืองมีบรรยากาศที่ดีขึ้น ซึ่งยืนยันว่าในวันที่ 17 กันยายน จะได้นายกฯที่มาจากพรรคพลังประชาชนอย่างแน่นอน และครั้งนี้จะแสดงความเป็นเอกภาพภายในพรรค" ร.ท.กุเทพกล่าว
ส่วนกระแสข่าว ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน พยายามผลักดัน นพ.สุรพงษ์ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกฯ หลังจากล้มเหลวในการผลักดันนายสมัครมาแล้วนั้น ร.ท.กุเทพที่เป็นสมาชิกกลุ่มเพื่อนเนวินด้วยกล่าวว่า วันนี้พรรคมีการพูดคุยกันในวงกว้างตามระบอบประชาธิปไตย แต่ในข้อสรุปเรื่องนี้ถือเป็นอำนาจของผู้ที่มีบทบาทระดับสูงของพรรคจะคุยกัน แม้วันนี้จะยังไม่มีความชัดเจน แต่ในการประชุม ส.ส.พรรควันที่ 15 กันยายน จะมีความชัดเจนและมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างแน่นอน

@ "พผ."แล้วแต่"พปช."ชื่อนายกฯใหม่

สำหรับการเดินสายพบปะกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 พรรคนั้น เวลา 12.00 น. นายสมชาย นายสมพงษ์ และ นพ.สุรพงษ์เข้าพบหารือนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อ แผ่นดิน นางระนองรักษ์ สุวรรณฉวี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายพิเชษฐ์ ตันเจริญ รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตัว แทนกลุ่มบ้านริมน้ำ นายไชยยศ จิรเมธากร ส.ส.อุดรธานี ตัวแทนกลุ่มพญานาค ที่พรรคเพื่อแผ่นดิน ถนนสุขุมวิท
หลังจากใช้เวลาหารือประมาณ 40 นาที ทั้งหมดแถลงร่วมกัน โดยยืนยันจะร่วมกันจัด ตั้งรัฐบาลอีกครั้ง เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และหามาตรการยุติปัญหาความแตกแยกในสังคมนำบ้านเมืองกลับไปสู่ความ สุขสงบ
นายสุวิทย์กล่าวว่า เรื่องตัวนายกรัฐมนตรี อยู่ที่การตัดสินใจของ พปช.เพราะเป็นเรื่องในองค์กร พรรคเพื่อแผ่นดินจะก้าวก่ายไม่ได้ จึงต้องให้เกียรติ พปช.เพราะผ่านมาย่อมรู้ดีว่าปัญหาอยู่ที่ตรงไหน

@ "สมชาย"ขอบคุณ"เสนาะ"เชียร์

ด้านนายสมชายที่เสียงส่วนใหญ่ใน พปช. ให้การสนับสนุน และเป็นเต็ง 1 ที่ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกฯให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องตัวบุคคลที่จะเสนอเป็นนายกฯยังไมได้ประชุมลงมติกันเลย อย่าไปฟังข่าว การที่ไปพบแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค เนื่องจากต้องการให้เกียรติพรรคร่วมทุกท่าน ซึ่งการเดินสายเข้าพบในวันนี้ไม่ได้แตกต่างจากคราวที่แล้วแต่อย่างใด ขณะที่ นพ.สุรพงษ์ปฏิเสธจะให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวว่ากลุ่มเพื่อนเนวินให้การสนับสนุน โดยระบุสั้นๆ ด้วยสีหน้าเบิกบานว่า "ต้องรีบไปพบป๋าเหนาะ"
เวลา 13.10 น. คณะผู้บริหาร พปช.เดินทางไปยังบ้านพักนายเสนาะที่ย่านเมืองทองธานี โดยใช้เวลาหารือ 20 นาที ก่อนที่นายสมชายจะ ออกมายืนยันว่า นายเสนาะรับปากว่าจะร่วมจัดตั้งรัฐบาลเช่นเดิม แต่ยังไม่มีการพูดคุยถึงตัวนายกฯ เป็นเพียงการพูดคุยในหลักการ ส่วนที่นายเสนาะออกมาชื่นชมว่าแม้จะเป็นน้องเขยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่วางตัวได้อย่างเหมาะสมนั้น นายสมชายกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า "ต้องขอบคุณที่นายเสนาะให้เครดิต แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น"
จากนั้นแกนนำของพรรคพลังประชาชนทั้ง 3 คน ได้ร่วมรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในหมู่บ้านเมืองทองธานี ก่อนที่จะเดินทางไปยังพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา พรรคมัชฌิมาธิปไตย และพรรคชาติไทย ในที่สุด

@ ปฏิเสธ2ขั้ว"พปช."งัดแย่งนายกฯ

กระทั่งเวลา 14.40 น.แกนนำ พปช.ทั้ง 3 เข้าหารือกับ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยพัฒนา (รช.) ณ ที่ทำการพรรค โดยนอกจาก พล.อ.เชษฐาแล้ว ยังมี ร.ต. ประพาส ลิมปะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรค รช.อยู่ด้วย ภายหลังหารือกว่า 30 นาที ทั้งหมดแถลงข่าวร่วมกัน โดยนายสมชายแถลงว่า ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่น พรรค รช.ตกลงว่าจะร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับ พปช.อีกครั้ง ขณะที่ พล.อ.เชษฐายืนยันร่วมจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้ง โดยให้ พปช. พิจารณาเลือกตัวนายกฯเอง ไม่ว่าจะเป็นใครพร้อมสนับสนุน
"ที่มีข่าวว่าผมจะเป็นนายกฯนั้น ไม่รู้สึกอะไร แต่รู้สึกว่าเราต้องดำเนินการไปตามหลักการของพรรค แต่ไม่ใช่เพียงผมเท่านั้น คนอื่นในพรรคที่มีความรู้ความสามารถก็ยังมี ส่วนกระแสข่าวในพรรคแตกออกเป็น 2 ขั้ว ขั้วหนึ่งสนับสนุน ผม อีกขั้วสนับสนุน นพ.สุรพงษ์นั้นไม่เป็นความจริง พรรคไม่มีขั้วอะไรทั้งนั้น มีแต่มติ ส.ส. ยืนยันว่าเรายังมีความสามัคคี ไม่มีปัญหาและความขัดแย้งต่อกัน" นายสมชายกล่าว

@ บอกดูหมอมาแล้วรบ.อยู่ถึงปีหน้า

ต่อมานายบรรหารแถลงหลังการหารือว่า พรรคชาติไทยมีจุดยืนตามที่พูดไปแล้ว และจะรักษาคำพูด จะร่วมตั้งรัฐบาลกับ พปช. ขอให้ พปช.สบายใจ ส่วนจะเลือกใครมาเป็นนายกฯนั้น พรรคชาติไทยพร้อมให้การสนับสนุน แต่ขอให้แจ้งให้ทราบก่อน เพื่อจะได้ไปบอกให้ลูกพรรคได้ทราบ มั่นใจว่ากาประชุมสภาเพื่อลงมติเลือกนายกฯในวันที่ 14 กันยายน จะราบรื่น ไม่มีปัญหา ทั้งนี้ ได้มีการหารือถึงแนวทางในการดำเนินการหลังจากตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้นแล้วว่าจะเดินหน้าสร้างความสามัคคีในชาติได้อย่างไรบ้าง เพื่อความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง พลิกฟื้นเศรษฐกิจ ส่วนคุณสมบัติคนที่จะมาเป็นนายกฯนั้น โดยส่วนตัวเห็นว่ามีความเหมาะสมทั้ง 3 ส. เพราะเป็นคนอ่อนโยน สามารถสร้างความปรองดองกับทุกฝ่ายได้ ทั้งนี้ สำหรับกระแสข่าวความขัดแย้งในการคัดเลือกบุคคลมาเป็นนายกฯนั้น เป็นเรื่องธรรมดาของพรรคการเมือง ที่อาจมีความเห็นที่แตกต่างกัน แต่ขอให้อย่าให้เกิดความกระเส็นกระสายเป็นเรื่องใหญ่มากเกินไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มพันธมิตรประกาศไม่ยอมรับว่าที่นายกฯ ทั้ง 3 ส. นายบรรหาร กล่าวว่า "โอ๊ย พันธมิตรไม่เอาใครทั้งหมดนั่นหละ ในโลกนี้จะเอาใครยังนึกไม่ออก ผมคิดว่าคงไม่นำท่าทีของพันธมิตรฯมาคิด เพราะใครมาก็ถูกว่าทั้งนั้น เชื่อว่าสถานการณ์หลังจากนี้คงจะดี เพราะผมไปดูหมอดูมาแล้ว รัฐบาลจากนี้ไปอาจจะอยู่ยืดจนถึงปีหน้าก็ได้"

@ เช็คเสียงดัน"สมชาย"นั่งแน่นปึ้ก

เมื่อเวลา 17.10 น. นายสมชาย นพ. สุรพงษ์ และนายสมพงษ์เดินทางไปยังบ้านพักของนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย เพื่อหารือถึงการเชิญพรรคมัชฌิมาธิปไตยเข้าร่วมเป็นพรรคร่วมรัฐบาล โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เข้าร่วมหารือด้วยโดยใช้เวลาหารือประมาณ 40 นาที
จากนั้นนายสมชายให้สัมภาษณ์ว่า มาเชิญพรรคมัชฌิมาฯ เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งทางพรรคมัชฌิมาฯ ก็ได้รับตอบรับที่จะเข้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาลแล้ว
นพ.สุรพงษ์ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มของนาย เนวินพยายามผลักดันให้ดำรงตำแหน่งนายกฯ ว่าเรื่องดังกล่าวเป็นไปตามการประชุมของพรรค ไม่ได้มีกลุ่มหรือแบ่งฝ่าย การตัดสินใจว่าใครจะได้เป็นนายกฯ ขึ้นอยู่กับมติของพรรค ไม่มีใครหรือกลุ่มใดมีบทบาทในการตัดสินใจทั้งสิ้น
รายงานข่าวจากพรรค พปช.แจ้งว่า ตลอดทั้งวันของวันที่ 14 กันยายน บรรดาแกนนำของพรรค ส.ส.ภาคเหนือบางส่วน และอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เริ่มทยอยเดินทางเข้าที่พรรคตั้งแต่เวลา 11.00 น. อาทิ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หัวหน้ากลุ่มวังบัวบาน น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีตกรรมการ บริหารพรรคไทยรักไทย นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรค ได้มีการประชุมร่วมกัน ส่วนวง ส.ส.มีประมาณ 10 คน อาทิ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา นายศรีเมือง เจริญศิริ นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน ซึ่งทั้งสองวงได้มีการหารือถึงสถานการณ์หลังจากที่กลุ่มเพื่อนเนวินพยายามผลักดันนพ.สุรพงษ์ และได้หารือถึง 3 ส.ใครเหมาะสมที่จะขึ้นเป็นนายกฯ โดยที่ประชุมแกนนำได้โทรศัพท์สอบถามความเห็น ส.ส.ว่าจะเอาใครเสียง ส.ส.ส่วนใหญ่สนับสนุนนายสมชาย เพราะเป็นบุคคลที่สามารถประสานได้กับทุกฝ่ายมีภาพรอมชอม จะทำให้ไม่มีใครแพ้ แต่ทุกฝ่ายจะชนะเหมือนกันหมด

@ "เติ้ง"ได้จังหวะทวงงบ30ล.ทันที

แกนนำ 3 ส.พรรค พปช. ยังเข้าพบนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ที่บ้านถนนจรัญสนิทวงศ์ เมื่อเวลา 21.00 น. เพื่อหารือร่วมกับ นายบรรหาร พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทย นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย และ นายวราวุธ ศิลปอาชา บุตรชายนายบรรหาร ทั้งนี้นายบรรหารได้ให้นายวราวุธ เป็นผู้ต้อนรับทั้ง 3 ส. และนำเข้าห้องหารือ นายบรรหารกล่าวแซว 3 ส. ว่า "เดี๋ยวนี้ 3 ส.ดังมาก 3 ส. แปลว่า 3 ทหารเสือ และเห็นด้วยที่ 3 ส. เดินสายพบปะพรรคการเมืองต่างๆ เพราะการเดินสายเป็นเรื่องที่ดี แต่ตอนนี้ผมไม่ค่อยใกล้ชิดรัฐบาลเลย เข้าไปใกล้ชิดลำบากเหมือนกัน เพราะรัฐบาลติดต่อไม่ค่อยติด" ซึ่งปรากฏว่า เมื่อนายบรรหารพูดจบ ทำให้ทุกคนหัวเราะชอบใจ พร้อมกันนี้นายบรรหารยังฝากฝังกับนายสมชายให้ช่วยดูแลโครงการจัดงานพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่นายสมศักดิ์ดูแลอยู่ด้วย โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณในการปรับปรุงภูมิทัศน์ต่างๆ ซึ่งต้องอาศัยจากงบกลางราว 30 ล้านบาท และจะเดินทางไปตรวจสอบความคืบหน้าด้วยตัวเองในวันที่ 15 กันยายน โดยนายสมชายได้รับคำว่าพร้อมดูแลให้และขอบคุณแทนชาวเชียงใหม่ ที่นายบรรหารมาดูแลเรื่องนี้ให้ อย่างไรก็ตาม นายสมชายได้กล่าวกับนายบรรหารว่า เรื่องการเลือกนายกฯนั้น พปช.ให้เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. พรรค ที่จะพิจารณาตัดสินใจร่วมกัน โดยจะยึดหลักเสียงข้างมาก
นายสมพงษ์กล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนหารือว่า "พรรคจะไม่ส่งรายชื่อผมเป็นนายกฯคนใหม่ โดยจะส่งคนอื่น และผมก็ไม่อยากมารับตำแหน่งนายกฯ อยากทำงานในส่วนที่ตัวเองรับผิดชอบดีกว่า"

@ กลุ่มเหนือย้ำ"สมชาย"เหมาะ

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส. เชียงใหม่ พปช. กล่าวถึงการสรรหาบุคคลที่มีความเหมาะสมที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีว่า ล่าสุดชื่อของผู้ที่จะรับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป คือ นายสมชาย เนื่องจากบุคคลนิ่มนวล เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน แม้พรรคประชาธิปัตย์เองก็ยังให้การยอมรับ ซึ่งสังเกตได้จากการที่นายสมชายได้รับการแต่งตั้งเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม สมัยนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี
พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นคร ราชสีมา พปช. กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เรียบร้อย เนื่องจากมี ส.ส.กลุ่มหนึ่งพยายามดันนอมินีตัวเองเข้าชิงตำแหน่ง เช่น กลุ่มเพื่อนเนวินที่สนับสนุน นพ.สุรพงษ์ ซึ่งเห็นว่าหากคิดแต่เรื่องตำแหน่งบ้านเมืองก็จะเดินหน้าต่อไม่ได้ สุดท้ายรัฐบาลแห่งชาติก็จะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อนั้นมาถึงบุคคลที่จะมาเป็นนายกฯก็ต้องไม่ใช่คนของ พปช. หรือพรรคประชาธิปัตย์ แต่เป็นคนที่เคยทำหน้าที่ปฏิรูปทางการเมืองเมื่อ ปี 2540
นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พปช. กล่าวว่า หากพรรคไม่สามารถตกลงกัน ได้ว่าจะส่งคนใดในรัฐมนตรี 3 ส.เป็นนายกรัฐมนตรีก่อนที่จะถึงวันที่ 17 กันยายน นายสมชายในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี ก็ควรที่จะคืนอำนาจให้ประชาชนโดยการประกาศยุบสภา เพราะคงไม่มีใครยอมให้มีรัฐบาลแห่งชาติแน่นอน

@ "สมพงษ์"สำรองกันอุบัติเหตุสภา

พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว รองหัวหน้าพรรค พปช. คนสนิทนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรค พปช. กล่าวว่า ขณะนี้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนแล้วว่าพรรคจะเสนอชื่อนายสมชายต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในวันที่ 17 กันยายน และหากเกิดสถานการณ์อะไรที่ทำให้ไม่ลงตัว พรรคจะเสนอชื่อนายสมพงษ์แทน สำหรับ นพ. สุรพงษ์คงเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้ เพราะติดคดีหวยบนดินอยู่ ซึ่งคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีต้องปลอดสารพิษ เคลียร์ตัวเองต่อสังคมได้
"ผมเห็นว่าตัว นพ.สุรพงษ์ควรที่จะคิดเรื่องตัวเองก่อนที่จะคิดเรื่องอื่น เพราะถ้าเป็นนายกฯคดีตัวเองยังไม่เคลียร์มีคนอื่นมาถามจะตอบอย่างไร ดังนั้น คนเป็นนายกฯต้องสะอาด เรียบร้อย" พ.ต.ท.กานต์กล่าว และว่า ขณะนี้นายสมัครยังไม่ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค มีเพียงอดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรีแจ้งให้ทราบว่าไม่ต้องการรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องมาจากหัวหน้าพรรค การเมือง ดังนั้น ผมในฐานะรองหัวหน้าพรรคคนที่ 1 ต้องทำหน้าที่แทน และเชื่อว่าไม่น่าจะเกิน 3 เดือน พรรคพลังประชาชนจะต้องถูกยุบ โดยสมาชิกทั้งหมดก็จะไปสังกัดพรรคเพื่อไทย ยกเว้นสมาชิกพรรคบางส่วนที่จะไปสังกัดพรรค การเมืองอื่น" พ.ต.ท.กานต์กล่าว

@ ก๊ก"เนวิน"ไม่ขัดหากเลือก"สมชาย"

นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา พปช. กลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าแกนนำพรรคตัดสินใจเสนอให้นายสมชายเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ว่า ทางกลุ่มยังไม่ได้หารือกัน เนื่องจากยังไม่ได้รับการประสานจากแกนนำพรรคในเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ทาง กลุ่มจะนัดประชุมกันในวันที่ 15 กันยายน เวลา 10.00 น. ที่ทำการพรรค เพื่อปรึกษาหารือกันถึงชื่อนายกฯคนใหม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากผลสรุปแล้วเป็นชื่อของนายสมชาย ทางกลุ่มรับได้หรือไม่ นายบุญจงกล่าวว่า ถ้าเป็นมติพรรค ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ยอมรับได้ทั้งนั้น แต่จะต้องเป็นมติพรรค ทั้งนี้ยืนยันว่าทางกลุ่มจะไม่มีการเคลื่อนไหวต่อต้านโดยไม่เข้าร่วมประชุมสภาในวันที่ 17 กันยายนนี้ เหมือนเช่นที่พรรคชาติไทยเคยทำเมื่อครั้งเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งแรก เมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมาอย่างแน่นอน เพราะเป็นพรรคใหญ่ "โดยส่วนตัวถ้าเป็นชื่อของนายสมชายเราก็ไม่มีปัญหา เรารับได้หมด แต่ขอให้เป็นมติพรรคเท่านั้นเอง เพราะทั้ง "3 ส." ก็มีคุณสมบัติเหมาะสมทั้งนั้น" นายบุญจงกล่าว
นายเจริญ จรรย์โกมล ส.ส.ชัยภูมิ พปช. แกนนำกลุ่มขุนค้อน กล่าวว่า ในวันที่ 15 กันยายนที่จะถึงนี้ จะมีการประชุม ส.ส.ของพรรคเพื่อลงมติในการเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเชื่อว่าจะมีการเสนอ ชื่อผู้ที่มีความเหมาะสมเพียงคนเดียว ตามที่กรรมการบริหารของพรรคพลังประชาชนเสนอมา ทั้งนี้กลุ่มขุนค้อนพร้อมที่จะยอมรับและปฏิบัติตามมติของพรรค เพื่อให้บ้านเมืองสามารถเดินหน้าต่อไป และสร้างความสามัคคี ความมีเอกภาพให้เกิดขึ้นในพรรค เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ให้เลิกแล้วต่อกัน

@ "เนวิน"ปลง-ฝันได้เก้าอี้รมต.เพิ่ม

รายงานข่าวแจ้งว่า ตลอดทั้งวันนี้ สมาชิกกลุ่มเพื่อนเนวินที่มี ส.ส.กว่า 80 คน ได้ทยอยเดินทางเข้าพบนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มที่บ้านพักนายเนวิน ย่านศรีนครินทร์ เพื่อ ให้กำลังใจนายเนวิน ที่ขณะนี้เกิดความรู้สึกน้อยใจและเสียความรู้สึกอย่างมากกับการที่ถูกพรรคร่วมรัฐบาล และ ส.ส.ในพรรคหักหลังจนไม่สามารถผลักดันนายสมัครเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งได้เมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ นายเนวินได้บ่นกับคนใกล้ชิดว่า "ไม่อยากเจอใคร และไม่อยากทำอะไรอีกแล้ว หากพรรคจะเสนอชื่อใครเป็นนายกรัฐมนตรีก็ปล่อยให้ทำไป" อย่างไรก็ตาม ทางแกนนำพรรคพลังประชาชนได้พยายามส่งคนไปประสานกับรัฐมนตรีในกลุ่มเพื่อให้ช่วยพูดกับนายเนวินให้สนับสนุนนายสมชายเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งล่าสุดก็ยืนยันว่าไม่มีปัญหา โดยโควต้ารัฐมนตรีในกลุ่มของนายเนวินจะได้เท่าเดิม และอาจได้โควต้ารัฐมนตรีเพิ่มอีก 2 ตำแหน่ง เนื่องจากจะมีเก้าอี้รัฐมนตรีในสัดส่วนคนนอกที่นายสมัครดึงมาว่างลงประมาณ 4-5 ตำแหน่ง

@ อีสานพัฒนาแหย่ก๊กใหญ่แตก

นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พปช. กลุ่มอีสานพัฒนา กล่าวถึงกระแสข่าวระบุ ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินบางส่วน เริ่มตีตัวออกห่างจากนายเนวินว่า ได้ยินมาเช่นกัน ว่าขณะนี้ ส.ส.อีสาน ที่ยังจงรักภักดีกับกลุ่มเพื่อนเนวินมีน้อยมาก เพราะ ส.ส.อีสานส่วนใหญ่ทราบดีว่าได้รับเลือกมาเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดังนั้น ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินส่วนใหญ่ จะย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทยเช่นเดียวกับ ส.ส. พปช.ในกลุ่มอื่นๆ หาก พปช.ถูกยุบ "ขณะนี้ยังมีความพยายามล็อบบี้เสนอให้ ทั้งเงินและตำแหน่งกับคนในกลุ่ม เพื่อให้ร่วมทำงานทางการเมืองกับกลุ่มเขาต่อไป แต่ ส.ส. เหล่านี้แม้แต่ ส.ส.บุรีรัมย์ ก็ทราบดีว่า การออกจากพรรคโดยข้อหาเนรคุณต่อ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ไม่ว่าใครจะไม่มีทางที่จะกลับเข้าสภาได้อีกเลย โดยเฉพาะในภาคอีสาน" นายศักดากล่าวนายศักดากล่าวยืนยันว่า กลุ่มอีสานพัฒนาจะเคารพมติพรรคในการเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งรัฐมนตรี 3 ส. นั้น ไม่ว่าใคร กลุ่มอีสานพัฒนาสามารถรับได้ทั้งหมด แต่ตัว นพ.สุรพงษ์ยังมีคดีติดตัวอยู่ ซึ่งหากได้รับการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรี ก็เชื่อว่าจะอยู่ได้ไม่กี่วัน

@ "อ๋อย"ปัด111ร่วมเฟ้นนายกฯใหม่

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย แถลงที่โรงแรมเรดิสัน ว่า กรณีเข้าร่วมหารือกับแกนนำ พปช. พร้อมสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ที่ถูกเพิกถอนสิทธิ เลือกตั้ง เมื่อวันที่ 13 กันายนที่ผ่านมาว่า เป็นการหารือแบบไม่เป็นทางการ และไม่ได้มีความพยายามเสนอนายกฯคนใหม่ แม้จะมีการวิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย แต่เมื่อมีข่าวแบบนี้หลายคนไม่สบายใจ จึงได้ข้อสรุปว่าจากนี้ไปสมาชิกบ้านเลขที่ 111 จะไม่มีการมาหารือกันที่ พปช. อีกต่อไป ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว รองหัวหน้า พปช. เสนอนิรโทษกรรมให้ 9 แกนนำแกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิป ไตยที่ถูกต้องข้อหากบฏ รวมทั้งนิรโทษกรรมสมาชิกบ้านเลขที่ 111 นายจาตุรนต์ ตอบว่า มันเป็นการจับแพะชนแกะแบบไม่มีหลักเกณฑ์และเหตุผล สมาชิกบ้านเลขที่ 111 โดนลงโทษโดยกฎหมายเผด็จการและส่วนใหญ่คือผู้บริสุทธิ์แต่ 9 แกนนำพันธมิตรมีความผิดในการใช้กำลังและอาวุธบุกยึดสถานที่ราชการ มันมีความผิดชัดแจ้ง หากเรื่องนี้ไปขึ้นสู่ศาลแล้วจะไม่มีความ ผิดไม่ได้ ส่วนจะเข้าข่ายข้อหากบฏหรือไม่นั้น ไม่ทราบ รัฐบาลจะเข้าไปแทรกแซงกระบวน การของศาลให้ยกเลิกข้อหานี้ไม่ได้ มันคือหน้าที่ของตำรวจและศาลเท่านั้น เมื่อศาลเห็นชอบแล้ว หากใครไปทะเล่อทะล่า จะถือว่าผิดกฎหมายด้วยซ้ำ ฉะนั้น 2 เรื่องนี้ มันจะนำมาเทียบกันไม่ได้เลย ปัญหาตอนนี้ที่ต้องเร่งแก้ไข คือจะรักษาประชาธิปไตย และแก้ไขวิกฤตการเมืองที่กลุ่มพันธมิตรทำไว้อย่างไร

@ ทำนาย"รบ."อยู่ได้ไม่เกิน2ด.

นายจาตุรนต์ยังปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นนายสมชายมาแรงในเก้าอี้นายกฯ ว่า ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะแสดงความคิดเห็น เป็นเรื่องที่ พปช.ต้องตัดสินโดยรับฟังความเห็นทุกด้าน อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่ารัฐบาลชุดใหม่จะ อยู่ได้บวกลบประมาณ 2 เดือน จากนั้นต้องเตรียมพร้อมรับมือคดียุบพรรค ต้องคิดว่าหลังการยุบพรรคจะมีรัฐบาลชุดใหม่อย่างไร เหตุที่คิดแบบนี้เพราะรัฐธรรมนูญเขียนไว้อย่างนั้น "มันเป็นส่วนหนึ่งของบันได 4 ขั้น ฉะนั้นต้องมีแถวที่ 3 ขึ้นมารอเป็นนายกฯคนที่ 3 ซึ่งต้องไม่เป็นกรรมการบริหารพรรคจากพลังประชาชนชาติไทย มัชฌิมาธิปไตย เพราะการเมืองมันเป็นแบบนี้ไปแล้ว ต้องลงมือทำ ตอนนี้ เพราะหากรอหลังยุบพรรคจะเกิดอาการแพแตก วันนี้ต้องแก้วิกฤตประเทศขณะเดียวกันก็ต้องคิดล่วงหน้าไว้ด้วย ส่วนภารกิจของนายกฯคนใหม่นับจากนี้คือ ต้องพูดให้ชัดว่าจะแก้รัฐธรรมนูญเมื่อใด ไม่จำเป็นต้องรอไป 6 เดือน เพราะโดนยุบพรรคแน่ โดยเฉพาะพรรคพลังประชาชนโดนยุบพรรคล้านเปอร์เซ็นต์" นายจาตุรนต์กล่าว

@ "ชวน"ข้องใจ"สุเทพ"เชียร์สมชาย

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ที่ จ.ตรัง กรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค ประชาธิปัตย์ เห็นว่าในบรรดา 3 ส. นายสมชายเหมาะสมดำรงตำแหน่งนายกฯมากที่สุดว่า การให้ความเห็นของนายสุเทพไม่ใช่สาระสำคัญ แต่เห็นว่าระบอบทักษิณ ไม่ใช่เฉพาะตัว พ.ต.ท. ทักษิณอย่างเดียว หากรวมทั้งขบวนการแทรก แซงองค์กรอิสระก็ถือว่าเป็นขบวนการระบอบทักษิณผู้สื่อข่าวถามว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้ รับแต่งตั้งเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม ในสมัยนายชวน เป็นนายกรัฐมนตรี นายชวนกล่าวว่า นี่เป็นข้อแตกต่างระหว่างสมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล กับพรรคไทยรักไทย เพราะพรรคประชาธิปัตย์ให้ความเป็นธรรมกับข้าราชการ ไม่ถือว่าบุคคลนั้นจะเป็นญาติเป็นน้องเขยของใคร จะไม่เข้าไปกีดกันข้าราชการ ผู้สื่อข่าวถาม คิดว่านายสมชายเหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า นายสมชายเป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นคนพูดสำเนียงใต้เหมือนกัน สามารถพูดจากันอย่างเป็นกันเอง อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 15 กันยายน จะไปสอบถามนายสุเทพเหมือนว่าที่ออกมาสนับสนุนนายสมชายเป็นนายกรัฐมนตรีเพราะอะไร มีเหตุผลใดที่เห็นว่านายสมชายเป็นนายกรัฐมนตรีได้ คงไม่ใช่เพราะเป็นคนใต้ หรือเป็นคนบ้านใกล้เรือนเคียงกับนายสุเทพ

@ เด็กสุเทพเฉไฉเหมาะสุดบรรดาแคระ

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ คนใกล้ชิดนายสุเทพกล่าวว่า เจตนาของเลขาธิการพรรคต้องการชี้ให้เห็นว่าในบรรดาคนแคระหรือคนขี้เหร่ทั้งหมด นายสมชายดูดีกว่าคนอื่น ไม่ได้มีเจตนาว่าพรรคประชาธิปัตย์ไปสนับสนุนนายสมชายแต่อย่างไรนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลว่า เป็นความพยายามของเสือหิว 2 กลุ่มที่แย่งชิงเศษอาหารกัน ประกอบด้วยแก๊งออฟโฟร์ กับแก๊งรวมดาวกระจุยที่มีสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ส.ส. พปช.บางส่วน และแก๊งต่อต้านแก๊งออฟโฟร์ ที่กำลังแย่งเศษอาหารกันผลักดันเอาคนของ ตัวเองเข้ามาเป็นรัฐมนตรี โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องชอบธรรม เพื่อให้กลุ่มของตัวเองเข้ามาเสวยสุขโดยไม่สนใจประชาชน ความพยายามตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่เป็นเพียงการแต่งหน้าเค้กใหม่ แต่ไส้ในยังเหมือนเดิม "สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า พรรคพลังประชาชนไม่ได้ตระหนักเลยว่า 7 เดือนที่ผ่านมาได้สร้างความบอบช้ำให้กับประเทศชาติหลายประการ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และความพยายามแก้รัฐธรรมนูญช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และหนีคดียุบพรรค ดังนั้นการจะเลือกนายกฯใหม่จึงไม่ใช่การแก้ปัญหา และไม่เกิดประโยชน์เพราะโครงสร้างรัฐบาลยังเหมือนเดิม ทั้งนี้ วิเคราะห์ว่าที่พรรคร่วมรัฐบาลยังจับมือกันเป็นเพราะหวงอำนาจแต่ไม่ห่วงบ้านเมือง หวังใช้อำนาจดำเนินการในสองเรื่อง คือ สะสมเสบียงกรังในการเลือกตั้งสร้างขุมกำลังเพิ่มจำนวน ส.ส. และใช้อำนาจรัฐโยกย้ายข้าราชการเพื่อใช้ข้าราชการทำผิดให้เป็นถูก และปฏิบัติการลูบหน้าปะจมูกช่วยคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณต่อไป" นายองอาจกล่าว นพ.บุรณัชย์ สมุทรรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่ว่า พปช.จะเสนอใครก็ตามมาเป็นนายกฯ การแสดงให้เห็นเนื้อแท้ที่ว่าไม่ว่าจะเป็นอย่างไรบุคคลที่จะเสนอก็จะไม่พ้นคน พปช. ขณะที่ภาพที่ออกมายังคงแสดงให้เห็นว่า ส.ส. พปช.ยังไม่มีความพร้อม เมื่อพรรคเสียงข้างมากยังไม่สามารถที่จะทำให้ประชาชนเชื่อใจได้ว่าสถานการณ์จะดีขึ้นอย่างไร จะต้องยืนยันในสัญญาประชาคมกับประชาชน 3 ข้อคือ 1.จะต้องไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อหนีคดียุบพรรค 2.ต้องไม่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม 3.ต้องออกมาบอกว่า มีจุดยืนในการปลดชนวนวิกฤตอย่างไร ด้วยกลไกอย่างไร

@ "ไพบูลย์"จี้เร่ง3ภารกิจเฉพาะหน้า

นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่หลายฝ่ายเห็นว่านายสมชายเหมาะสมเป็นเรื่องที่ดี เพราะนายสมชายเป็นคนที่รับฟังคนอื่น เพราะเคยเป็นข้าราชการประจำ แม้แต่นายสุเทพ และนายเสนาะต่างก็เห็นด้วย ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ หากจะมีการหารือกันในการจัดตั้งรัฐบาลพิเศษเฉพาะกาล โดยอาจมีพรรคการเมืองใหญ่ 2-3 พรรคเข้าร่วม ทั้งนี้การจัดตั้งรัฐบาลพิเศษ ควรมีบุคคลภายนอกที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิเข้ามาร่วมในคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างน้อยครึ่งหนึ่ง เพื่อที่จะได้ คลายความเป็นการเมือง เพราะประชาธิปไตยที่ดีคือการปกครองโดยประชาชน ดังนั้น จึงควรเกิดการผสมผสานกัน แต่อย่าพึ่งตัดสินใจ ต้องค่อยๆ ตั้งโจทย์และหารือจนเห็นพ้องกัน ซึ่งจะเป็นการสมานฉันท์ ทั้งนี้ รัฐบาลพิเศษควรมี เวลาทำงาน 1 ปี ถึง 1 ปีครึ่ง "แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับภารกิจที่ต้องทำอย่างน้อย 3 ประการคือ 1.ยุติความขัดแย้ง โดยการสร้างความสมานฉันท์ซึ่งในส่วนของกลุ่มพันธมิตรเองก็น่าจะเจรจากันได้ 2.ปฏิรูปการ เมือง โดยควรระดมความเห็นเพื่อให้ทุกฝ่าย ช่วยกันคิดในสิ่งที่เรียกว่าการเมืองใหม่ 3.เรื่องอื่นๆ เช่น การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า" นาย ไพบูลย์กล่าว

credit : มติชนรายวัน

ไม่มีความคิดเห็น: