16 กันยายน 2551

อัยการคาดศาลอาจอ่านคำพิพากษาคดีที่ดินรัชดาฯ ลับหลังจำเลย

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. - อัยการคาดเป็นไปได้ที่ศาลฎีกาฯ จะไม่เลื่อนพิพากษาคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ วันพรุ่งนี้ ระบุข้อเท็จจริงตามรายงานกระบวนพิจารณาชัด “พ.ต.ท.ทักษิณ-คุณหญิงพจมาน” หนีไม่มาศาล-ไม่รายงานตัวหลังกลับต่างประเทศ ขณะที่ทนายไม่ยอมให้สัมภาษณ์
นายนันทศักดิ์ พูลสุข อธิบดีอัยการฝ่ายคดีศาลสูง เขต 8 1 ในคณะทำงานรับผิดชอบคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก กล่าวถึง กรณีที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษาคดีดังกล่าว วันพรุ่งนี้ ( 17 ก.ย.) เวลา 10.00 น. ว่า หากวันพรุ่งนี้ จำเลยทั้ง 2 คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ไม่มาฟังคำพิพากษา ก็มีความเป็นไปได้ที่ศาลจะอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย แม้ตามกฎหมายจะต้องอ่านคำพิพากษาต่อหน้าจำเลย แต่เมื่อคดีนี้ศาลอนุญาตให้สืบพยานลับหลังจำเลย และในรายงานกระบวนพิจารณาคดีศาลเคยระบุว่า แม้จำเลยทั้ง 2 อยู่ต่างประเทศ แต่ก็ถือว่าตัวจำเลยยังอยู่ในอำนาจศาล ดังนั้น อาจไม่ต้องออกหมายจับจำเลย และเลื่อนฟังคำพิพากษาออกไปอีก 30วัน
“ส่วนจะเลื่อนหรือไม่เลื่อนฟังคำพิพากษา ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ซึ่งวันพรุ่งนี้ อัยการก็ไม่จำเป็นต้องแถลงต่อศาลยืนยันข้อเท็จจริงว่าจำเลยทั้ง 2 หลบหนีไปอีก เพราะข้อเท็จจริงมีปรากฏในกระบวนพิจารณาของศาลแล้ว และหากศาลอ่านคำพิพากษาทันที โดยถ้าตัดสินว่าจำเลยมีความผิดลงโทษตามฟ้อง ก็จะออกหมายจับจำเลยมารับโทษต่อไป แต่ถ้าศาลพิพากษาว่าจำเลยไม่มีความผิด แล้วยกฟ้องกระบวนการทางคดีก็ยุติ” นายนันทศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ นายนันทศักดิ์ กล่าวด้วยว่า คดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ กับคดีนายวัฒนา อัศวเหม อดีต รมช.มหาดไทย มีความแตกต่างกัน เพราะนายวัฒนา เดินทางมาศาลเกือบทุกนัด ระหว่างการพิจารณา และขณะที่ศาลมีคำสั่งนัดฟังคำพิพากษา นายวัฒนา ก็ยังไม่ได้หลบหนี กระทั่งวันพิพากษา นายวัฒนา ไม่ได้มาศาล จึงถูกออกหมายจับ และเมื่อยังไม่ได้ตัวมาภายใน 30 วัน หลังจากออกหมายจับ ศาลจึงอ่านคำพิพากษาลับหลัง แต่ในส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน กลับปรากฏว่า ทั้ง 2 หลบหนีไปตั้งแต่ชั้นพิจารณา โดยไม่มารายงานตัวตามที่ศาลสั่งไว้หลังจากเดินทางไปต่างประเทศ จนถูกออกหมายจับ ซึ่งศาลไม่ได้สั่งจำหน่ายคดี เพื่อพักการพิจารณาคดี แต่ได้กำหนดนัดฟังคำพิพากษา
ด้าน นายคำนวณ ชโลปถัมภ์ ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ว่า พรุ่งนี้จะเดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษาหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ อัยการสูงสุดยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน เป็นจำเลยที่ 1 - 2 ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ร่วมกันเป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้ส่วนเสีย ในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐ ปฎิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดี และเป็นเจ้าพนักงาน และผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นฯ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พ.ศ.2542 ม.4 ,100 และ 122 ประมวลกฎหมายอาญา ม.33, 83, 86, 91, 152 และ 157. - สำนักข่าวไทย จาก http://news.mcot.net/politic/

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ก็เป็นไปตามกระบวนการครับ กฎหมายคือสิ่งที่ทุกคน

ควรเคารพ และเชื่อฟังการตัดสินของศาล

คนทำผิดก็ต้องรับผิด

ผลสำรวจก็ยืนยันว่ากระบวนการยุติธรรมของไทยอยู่

อันดับ 9 แถบเอเชีย