21 กรกฎาคม 2551

ประชุมจีบีซีไทย-กัมพูชาล่ม เหตุนอกรอบไม่ได้ข้อสรุปแก้ปัญหาพระวิหาร




สระแก้ว 21 ก.ค. - “พล.อ.บุญสร้าง-พล.อ.เตีย บันห์” ใช้เวลา 8 ชม. หารือนอกรอบแก้ปัญหาตึงเครียด 2 ประเทศ แต่หาข้อสรุปไม่ได้ ติดปัญหากฎหมายและใช้แผนที่บริเวณปราสาทพระวิหารคนละฉบับ ส่งผลให้ประชุมจีบีซีไม่ได้ คาดหารือกันใหม่หลังเลือกตั้งทั่วไปในกัมพูชา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการนัดประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) ไทยและกัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่โรงแรมอินโดจีน จ.สระแก้ว ไม่สามารถเริ่มขึ้นได้ โดยในช่วงเช้า เวลา 10.00 น. เป็นการหารือส่วนตัวระหว่าง พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กับ พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา จากนั้นได้เพิ่มผู้เข้าร่วมประชุมจาก 2 คน เป็นฝ่ายละ 5 คน ฝ่ายไทย ประกอบด้วย พล.อ.บุญสร้าง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ท.สุรพล เผื่อนอัยกา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พล.ท.นิพัทธ์ ทองเล็ก เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร และนายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และในช่วงบ่ายได้ลดลงเหลือฝ่ายละ 3 คน

ต่อมาเวลา 16.00 น. พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีอีก 1 ประเด็นที่จะต้องหารือ และเมื่อทั้งไทยและกัมพูชาได้ข้อสรุปร่วมกัน จะทำบันทึกความเข้าใจร่วมกัน เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป เพื่อให้ความเห็นชอบ และจะมีการแถลงข่าวร่วมกันอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในเวลา 18.25 น. พล.อ.บุญสร้าง พร้อมด้วย พล.อ.เตีย บันห์ ร่วมกันแถลงข่าวผลการประชุมนอกรอบที่ใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมง โดย พล.อ.บุญสร้าง ระบุว่า การประชุมครั้งนี้ไม่ใช่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป แต่เป็นการประชุมวงเล็ก และยังไม่ได้ข้อยุติ เพราะมีปัญหาติดขัดในเรื่องกฎหมาย ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายต้องนำกลับไปรายงานให้ผู้ที่มีอำนาจในระดับสูงกว่านี้ตัดสินใจ และทั้ง 2 ฝ่ายจะไปกำชับสั่งการให้ทหารตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่ตามแนวชายแดน โดยให้อยู่ด้วยความสงบ ไม่ใช้ความรุนแรง และจะไม่มีการเสริมกำลังและไม่เสริมอาวุธเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การหารือในครั้งนี้ไม่ได้ล้มเหลว เพียงแต่ไม่ได้ข้อเสนอแนะที่จะเสนอรัฐบาลทั้ง 2 ฝ่าย

"ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ โดยมีสิ่งที่เป็นรูปธรรมในการหารือ คือ ต้องอยู่ในความสงบ ซึ่งหลังจากนี้กระทรวงการต่างประเทศจะทำรายงานส่งไปยังนายกรัฐมนตรี โดยผมไม่จำเป็นต้องเข้ารายงานนายกรัฐมนตรีด้วยตนเอง และหลังจากที่ต่างฝ่ายต่างไปรายงานและพิจารณาแล้ว จะมากำหนดเวลาประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นหลังการเลือกตั้งทั่วไปในกัมพูชา" ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าว

พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ปัญหาที่ทำให้ไทยและกัมพูชาไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันในวันนี้ได้ เนื่องจากถือแผนที่กันคนละฉบับ โดยไทยยึดถือแผนที่ของสหรัฐ ส่วนกัมพูชายึดถือแผนที่ของฝรั่งเศส จึงทำให้ไม่ลงตัว และทำให้ปัญหาอื่น ๆ ตกลงกันไม่ได้

ด้าน พล.อ.เตีย บันห์ ยืนยันว่า ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ และมีความก้าวหน้าในระดับหนึ่ง แต่ติดขัดด้านกฎหมายบางอย่าง จึงทำให้ไม่สามารถนำไปปฏิบัติเป็นรูปธรรมได้ และสิ่งที่ได้ทำความเข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง คือ จะต้องพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าและเหตุรุนแรง ทั้งนี้ ยอมรับว่า อุณหภูมิความตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศยังไม่ลดลง และอยากแสดงความเป็นห่วงในเรื่องนี้ โดยต้องการให้อุณหภูมิความตึงเครียดลดลง และการหารือในครั้งนี้ได้ข้อยุติส่วนใหญ่เป็นเรื่องข้อกฎหมายเท่านั้น แต่ทำให้ไม่สามารถประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปอย่างเป็นทางการได้

ส่วนกรณีที่กัมพูชาส่งจดหมายไปยังองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา กล่าวว่า ในระยะเวลาไม่กี่วันที่มีเหตุการณ์เกี่ยวข้องกับกรณีพิพาทปราสาทพระวิหารเกิดขึ้น จึงอยากหาวิธีทำให้ทุกอย่างจบลงด้วยความราบรื่น จึงใช้เวลาหารือในครั้งนี้มากมาย และพอใจกับผลที่ได้ แม้ว่าจะไม่สามารถนำไปปฏิบัติได้ก็ตาม และต่อไปต้องเดินหน้าสานต่อ ทั้งนี้ การยื่นหนังสือไปให้ยูเอ็น เพราะเป็นเหตุสุดวิสัยที่จะหาทางออก จึงต้องดำเนินการในสิ่งที่ควรทำ และปัญหาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างแนวชายแดน มีหน่วยงานของ 2 ฝ่ายดูแลอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องพื้นที่ทับซ้อน ขอยืนยันว่า การหารือที่ไม่ได้ข้อสรุปในวันนี้ จะไม่นำไปสู่ความรุนแรงระหว่าง 2 ประเทศอย่างแน่นอน. - สำนักข่าวไทยอัพเดตเมื่อ 2008-07-21 20:19:39

id 513 1601 176 sec 1 law

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เลือกทมันซักทางเหอะ


ไม่ไหวมั้ง


เปนงี้ต่อไป


คนไทย แย่ๆๆๆ