08 กันยายน 2551

มีเรื่องเล่ากันในหมู่คนวงในใกล้ชิดว่า “ลุงหมัก” นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี มีเครื่องรางของขลัง “หลวงพ่อฉิม” ไว้ใช้ห้ามฟ้าห้ามฝน บนบานเวลาเปิดเวทีป



แต่เก่งเรื่อง “ห้ามฝน” ก็คงไม่เกี่ยวกับการบนบานศาลกล่าว เรียกฟ้าเรียกฝนให้เทกระหน่ำกรุงเทพฯอย่างหนักติดต่อกันหลายวัน เหมือนเป็นใจช่วย “ลุงหมัก”
โดยเฉพาะเวทีม็อบพันธมิตรฯที่ทำเนียบรัฐบาล เจอพายุคะนองถึงกับมีปรากฏการณ์ลูกเห็บถล่มเวทีปราศรัยและเต็นท์ของผู้ชุมนุมจนกระเจิดกระเจิง
อาเพศหรือเหตุธรรมชาติ
ที่แน่ๆแกนนำม็อบพันธมิตรฯต้องรีบนิมนต์หลวงปู่พุทธอิสระ วัดอ้อมน้อย จังหวัดนครปฐม มาทำพิธีแก้บาปเคราะห์ พร้อมกับกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้ “ลุงหมัก” และคณะรัฐมนตรี เป็นการแก้เคล็ด
แต่ก็ไม่วายเกิดเหตุการณ์ประหลาด หลังจากกรวดน้ำได้ไม่นาน เกิดฟ้าผ่าเสียง ดังสนั่นหวั่นไหว
เคราะห์ดีที่ทำเนียบฯมีสายล่อฟ้า จึงไม่มีใครได้รับอันตราย
เล่นเอาใจแป้วก็แล้วกัน
ฟ้าฝนไม่เป็นใจกับเกมหักดิบรัฐบาลที่เลยผ่านเสี้ยวนาทีแห่งวิกฤติ “ม็อบชนม็อบ” มีคนเจ็บตายก็แล้ว ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็ยังไม่เร้าสถานการณ์
แม้แต่นาทีวัดใจเสียวๆ
“ลุงหมัก” ยื่นกระบองให้ แต่ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก เล่นบทชิ่งทำเฉย เลือกเป็นยักษ์ใจดี ไม่รับมุกลุยม็อบ จนลูกข่ายพรรคพลังประชาชนออกมาเปิดเกมไล่บี้ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ขณะที่ “ลุงหมัก” ขอมติ ครม.รวบอำนาจการสั่งการมาไว้ในมือนายกฯ รวมถึงการสั่งการทหารโดยไม่ต้องผ่านสภากลาโหม
เปิดเกมเพาเวอร์เพลย์หยั่งเชิงกันในที
แต่ก็ยังไม่มีอะไรในกอไผ่
ต่างฝ่ายต่างขึงพืด ไม่มีใครพลาดตกเป็นเหยื่อของเกมชิงมวลชน
“ดื้อ” เจอ “ด้าน” เฉือนกันไม่ลง
และก็เป็นอะไรที่ต้องเปิดมุกใหม่ ด้วยการปลุกระดมเครือข่ายนักศึกษาเป็นหน่วยหน้าในการเคลื่อนไหวกดดัน “ลุงหมัก” แทนแกนนำม็อบที่ปักหลักรักษาที่มั่นอยู่ในทำเนียบรัฐบาล
ท่ามกลางเสียงเรียกร้องให้มอบตัว สู้ข้อหากบฏ
ขยับเขยื้อนไม่คล่องตัวเหมือนเก่า
แต่ที่สะดุดเต็มๆ ในคิวเดียวกัน หลวงปู่พุทธอิสระได้เทศนาเชิงตำหนิแกนนำม็อบพันธมิตรฯที่ชูธงพิมพ์เขียวการเมืองใหม่ แบ่งโควตา ส.ส. “ลากตั้ง” ร้อยละ 70 ลด ส.ส.เลือกตั้งเหลือแค่ 30 เปอร์เซ็นต์ จนเป็นเหตุให้สังคมผงะอำนาจนอกระบบ นายกฯสมัครได้ทีอ้างเป็นเหตุในการสู้ไม่ถอย
ต้องอยู่เฝ้าบ้านเมืองเพื่อคนส่วนใหญ่
ป้องกันลัทธิที่คิดแบบไม่เป็นประชาธิปไตย
และก็เป็นอะไรที่อยู่ในสายตาสื่อต่างชาติ ล่าสุดนิตยสารดิ อีโคโนมิสต์ ของอังกฤษ ได้เผยแพร่บทวิเคราะห์ “เลวร้ายยิ่งกว่ารัฐประหาร” (Worse than a coup) เมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา อ้างถึงการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
โดยระบุว่าแม้นายสมัคร สุนทรเวช จะมีประวัติด่างพร้อย และถูกกล่าวหามาตลอดว่ามีส่วนรู้เห็นในเหตุการณ์สังหารหมู่นักศึกษาเมื่อ 6 ตุลาคม 2519 แต่กลุ่มพันธมิตรฯได้เรียกร้องหาการปกครอง แบบเผด็จการ
ไม่มีสิทธิทำลายรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งโดยมหาชน
อีกทั้งการปกครองรูปแบบใหม่ที่เสนอให้มี ส.ส.จากการแต่งตั้งมาก กว่า ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้ง จะทำลายอำนาจการต่อรองของประชาชนในชนบท
ข้อเสนอนี้จะส่งผลกระทบต่อชาติบ้านเมืองเข้าขั้นเลวร้ายกว่าการทำรัฐประหารเสียอีก
ดิ อีโคโนมิสต์ ยังอ้างถึงการละเมิดคำสั่งศาลของม็อบพันธมิตรฯ รวมถึงการบุกยึดสนามบินว่าเป็นการสร้างผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติ อาจทำให้ประเทศไทยถูกคว่ำบาตรได้
บทวิเคราะห์ขัดหูซะขนาดนี้
ไม่รู้จะโยน “คนหนีภัย” ที่อังกฤษล็อบบี้สื่อฝรั่งอีกหรือเปล่า.
จาก : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันจันทร์ ที่ 8 กันยายน 2551

ไม่มีความคิดเห็น: