02 กันยายน 2551

พันธมิตรเผย"ผบ.ทบ"ยังไม่ขอเจรจา ลั่นยุบสภาแก้ปัญหาไม่ได้ "เยาวชนกู้ชาติ"จี้นายกฯลาออก-รับผิดชอบ

"สมศักดิ์"เผยผบ.ทบยังไม่ขอเจรจา ลั่นยุบสภาแก้ปัญหาไม่ได้ นศ.วาง"พวงหรีด"ประท้วง"สมชาย" สั่งห้ามร่วมพันธมิตร พันธมิตรฯ ภาคใต้ฮือยึด "ศาลากลาง" ด้านนักรบ "กล่องข้าวน้อย" บุกสมทบกรุงฯ หลังแกนนำเมิน "พ.ร.ก.ฉุกเฉิน" ยันชุมนุมต่อ ปัดข้อเสนอ "อนุพงษ์" ขอเจรจา ย้ำเงื่อนไขนายกฯ ต้องลาออกสถานเดียว ดึงแนวร่วมวัยโจ๋ น.ศ.แห่ขึ้นเวที
P { margin: 0px; }
"สมศักดิ์"เผยผบ.ทบยังไม่ขอเจรจา ลั่นยุบสภาแก้ปัญหาไม่ได้

นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวเมื่อวันที่ 3 ก.ย.ว่า ยังไม่ได้รับการประสานเรื่องการเจรจา จากพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ทั้งนี้ พันธมิตรฯ ขอยืนยันว่าทางออกของปัญหา คือการที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ต้องลาออก และมีการเมืองใหม่ที่ไม่มีขั้วการเมืองของพรรคร่วมรัฐบาลรวม

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า พันธมิตรฯ ไม่ได้เรียกร้องให้มีการเลือกตั้งใหม่ และคิดว่าการประกาศยุบสภาไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ นอกจากนี้ ยังเป็นเรื่องที่ส่ออันตราย เพราะรัฐบาลสามารถโกงการเลือกตั้ง เพื่อกลับมาใหม่ได้

นายสมศักดิ์ กล่าวถึงมาตรการการดำเนินการตัดน้ำและไฟฟ้า ว่า เรื่องนี้ยังคงเป็นไปตามมติที่ประกาศไว้ โดยไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะต้องรอดูความชัดเจนในช่วงบ่ายวันที่ 3 ก.ย.นี้

"เยาวชนกู้ชาติ"จี้นายกฯลาออก สร้างวัฒนธรรมการเมือง

เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 3 ก.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มนิสิตและนักศึกษาเครือข่ายเยาวชนกู้ชาติ ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อเป็นการรับผิดชอบเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และเชื่อว่าหากนายสมัครลาออก จะเป็นการสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองเหมือนประเทศที่พัฒนาแล้ว

จากนั้นในเวลา 15.00 น. กลุ่มนิสิตและนักศึกษาฯ จะเดินทางเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะดังกล่าว ที่โรงพยาบาลรามาธิบดีและโรงพยาบาลวชิระต่อไป

นศ.วาง"พวงหรีด"ประท้วง"สมชาย" สั่งห้ามร่วมม็อบ

เมื่อเวลา 11.10 น. วันที่ 3 ก.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชดำเนินประมาณ 30 คน ได้เดินทางไปยังกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อควางพวงรีด ที่มีข้อความว่า "อาลัยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตายจากหัวใจเยาวชน" พร้อมอ่านแถลงการเรียกร้องให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พิจารณาตัวเองโดยการลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากนายสมชายได้ห้ามนักเรียนและนักศึกษา ที่สนใจทางการเมืองแสดงความคิดเห็นและเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

ตัวแทนนักศึกษามหาวิทยาลัยราชดำเนิน กล่าวว่า จะให้เวลานายสมชายพิจารณาเรื่องนี้ 7 วันข้างหน้า โดยเราหวังว่านายสมชายจะอนุญาตให้นักเรียนและนักศักษาสามารถแสดงความคิดเห็นทางการเมืองได้ และอนุญาตให้หยุดการเรียนการสอนในสถาบันการศึกษาต่างๆ ด้วย
พันธมิตรจ.ชุมพรแห่บุกยึด "ศาลากลาง" ได้แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 07.30 น.เมื่อวันที่ 3 ก.ย. นายสุนทร รักษ์รงค์ ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จังหวัดชุมพร ในฐานะผู้ประสานงานพันธมิตรฯ 14 จังหวัดภาคใต้ ได้ออกแถลงการณ์ บริเวณหน้าสถานีรถไฟ อ.เมือง จ.ชุมพร ภายหลังที่รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินในเขตกรุงเทพมหานคร มีใจความดังนี้

"พันธมิตรฯ 14 จังหวัดภาคใต้ ขอประกาศอารยะขัดขืนขั้นสูงสุด คือให้แกนนำพันธมิตรฯ ทุกจังหวัดเข้ายึดศาลากลางทุกจังหวัดและยึดสนามบินจนกว่านายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จะลาออก ส่วนการการปิดถนนนั้น เป็นแนวทางสุดท้ายที่จะดำเนินการขั้นต่อไป เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับแนวร่วมที่จะเดินทางขึ้นกรุงเทพมหานคร"

จากนั้นนายสุนทรได้นำผู้ชุมนุมประมาณ 500 คน ได้ชุมนุมที่ศาลากลางจังหวัดชุมพร

ด้านนายมานิต วัฒนเสน ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าวว่า ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อมและประสานงานกับตำรวจภูธรจังหวัด (ภ.จว.) ชุมพร สภ.เมืองชุมพร และอาสาสมัคร (อส.) จากกองร้อย อส.จ.ชุมพร เพื่อคอยรักษาความสงบเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ยังได้ปิดประตูเข้าออกด้วย แต่ผู้ชุมนุมได้ปีนและตัดกุญแจจนสามารถเข้าไปยึดพื้นที่ได้

พันธมิตรสุราษฎร์ฯจะชุมนุมที่ศาลากลาง ค้านพ.ร.ก.ฉุกเฉิน

เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 3 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานีได้เปิดใช้ตามปกติแล้ว โดยแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จะชุมนุมเพื่อสนับสนุนพันธมิตรฯ ที่กรุงเทพมหานครบริเวณศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการใช้ความรุนแรง และแสดงเจตนารมย์ให้เห็นว่าไม่เห็นด้วยกับการประกาศภาวะฉุกเฉินในเขตกรุงเทพมหานคร

พันธมิตรภูเก็ตยังปิดศาลากลาง กดดัน"สมัคร"ลาออก

เมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 3 ก.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จังหวัดภูเก็ต ได้ประกาศปิดศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อใช้เป็นสถานที่ชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการประกาศภาวะฉุกเฉินในเขตกรุงเทพมหานคร และกดดันให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง

นักรบพันธมิตร "กล่องข้าวน้อย" บุกสมทบกรุงฯ

เมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่สวนอาหารร้านตะวันแดง ถนนสายรอบเมือง เขตอำเภอเมือง จังหวัดยโสธร กลายเป็นจุดนัดรวมพลของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยของจังหวัดยโสธร โดยมี นายวุฒิชัย คำเหลา หรือ (แก่นกีต้าช้าย) เตรียมเคลื่อนพลเข้าสมทบกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่กรุงเทพมหานคร ไม่ต่ำกว่า 100 คน โดยใช้รถบรรทุก 6 ล้อ และรถยนต์ส่วนตัว เพื่อขนย้ายกลุ่มและขนเสบียง ข้าวสาร อาหารแห้ง และน้ำดื่ม ที่มีประชาชนทยอยเดินทาง นำมาบริจาค ให้กับกลุ่มพันธมิตรฯยโสธร นำไปช่วยเหลือกลุ่มพันธมิตรฯ ที่กรุงเทพมหานคร

นายวุฒิชัย คำเหลา แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า การเคลื่อนพล และขนเสบียงอาหาร เข้าไปสมทบช่วยเหลือ กลุ่มพันธมิตรที่กรุงเทพฯ ในวันนี้ ตนและคณะไม่หวั่น แม้จะถูกเจ้าหน้าที่บ้านเมืองกดดัน ตั้งด่านสกัดกั้น ตามรายทาง เพราะมีการ เตรียมความพร้อม เอาไว้แล้วโดยมีการ์ดที่รักษาความปลอดภัยไปด้วยโดยใช้ชื่อว่า”นักรบก่องข้าวน้อย”ที่จะรักษาความปลอดภัยตลอดเส้นทางในการเดินทางในวันนี้
พันธมิตรให้นายกฯออกก่อนเจรจา

ภายหลังจากที่รัฐบาลโดยนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศใช้พระราชกำหนดบริการราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จุดยืนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยังคงยืนยันให้นายกฯ ลาออก

เมื่อเวลา 15.40 วันที่ 2 กันยายน นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ว่า พันธมิตรจะยอมเจรจาก็ต่อเมื่อ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) รับเงื่อนไขของพันธมิตรเท่านั้น นั่นคือรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ต้องลาออก

ขณะที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวต่างประเทศ เวลา 18.00 น. ว่า ตนเชื่อในสิ่งที่ พล.อ.อนุพงษ์พูด เพราะแสดงให้เห็นว่าไม่ปฏิบัติคำสั่งของนายสมัครถึง 2 ครั้ง ครั้งแรก ตอนเช้า ที่ไม่ปิดเอเอสทีวีตามคำสั่งของนายสมัคร และไม่รู้ว่า พล.อ.อนุพงษ์จะเข้ามาเจรจาเมื่อไร แต่จุดยืนพันธมิตรคงเดิม คือจะไม่เจรจาจนกว่านายสมัครจะลาออก ส่วนที่ระบุว่า พรุ่งนี้ (3 ก.ย.) จะเป็นจุดจบของรัฐบาล เป็นเพียงการมองโลกในแง่ดีของตน เป็นเพียงการให้ความหวังกับตัวเอง

น.ร.-น.ศ.หลายสถาบันร่วมชุมนุม

ในช่วงบ่ายเวลา 13.45 น. นายสนธิกล่าวบนเวทีอีกครั้งว่า เชื่อว่าทหารจะไม่ทำร้ายประชาชน ขอเรียกร้องให้ประชาชนที่อยู่ต่างจังหวัดมาร่วมกันช่วยบ้านช่วยเมือง และเรื่องราวต่างๆ จะคลี่คลาย

ขณะเดียวกัน หลังจากที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แถลงว่า จะไม่ใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมของพันธมิตรที่อยู่ในทำเนียบ แต่จะใช้การเจรจา ทำให้บรรยากาศการชุมนุมภายในทำเนียบผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น หลังจากตึงเครียดมาตลอดทั้งวัน และตั้งแต่เวลา 15.00 น. มีประชาชนทยอยเดินทางไปร่วมชุมนุมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเต็มสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า และล้นออกไปจนถึงลานจอดรถทางประตู 5 จนต้องตั้งเต๊นท์เพิ่มเติม โดยมีนักเรียนและนักศึกษาจากโรงเรียนและมหาวิทยาลัยต่างๆ เข้าร่วมกลุ่มพันธมิตรอย่างหนาตาด้วย อาทิ คณาจารย์และนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกว่า 50 คน ที่ถือป้ายเดินขบวนให้กำลังใจพันธมิตร รวมทั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มหาวิทยาลัยรามคำแหง และมหาวิทยาลัยศิลปากร โดยสวมชุดนักศึกษาทยอยขึ้นเวที เรียกร้องให้นักศึกษาทั่วประเทศออกมาร่วมชุมนุมกับพันธมิตร และขับไล่รัฐบาล และในช่วงหัวค่ำก็ยังมีประชาชนจากต่างจังหวัดทยอยมาร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่อง

ม็อบตื่นถังแก๊สบึ้ม-น้ำไม่ไหล

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล ประตู 5 เกิดเหตุแก๊สหุงต้มของรถเข็นขายกาแฟระเบิดขึ้นโดยไม่รู้สาเหตุ สร้างความแตกตื่นให้กับผู้ชุมนุมที่ชุมนุมที่บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย สามารถเข้าระงับเหตุโดยพ่นสารดับเพลิงและดับไฟได้ภายใน 10 นาที ขณะเดียวกัน เกิดเหตุปั๊มน้ำประปาภายในทำเนียบมีปัญหาจนใช้การได้ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าใจว่า รัฐบาลตัดน้ำ-ตัดไฟ แต่เมื่อตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดจากปั๊มน้ำประปาเกิดเหตุขัดข้อง จึงให้ช่างประปามาซ่อมแซมจนใช้ได้ภายใน 1 ชั่วโมง

"จำลอง"เชื่อทุกอย่างจบใน1-2วัน

พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตร ขึ้นเวทีขอความเห็นจากผู้ชุมนุมว่าจะยังชุมนุมต่อไปหรือไม่ ซึ่งมีเสียงโห่ร้องตอบรับกลับมาทันที พล.ต.จำลองจึงกล่าวว่า "ในเมื่อมีมติเป็นเอกฉันท์ ดังนั้น เราจะอยู่สู้ต่อไป หลังรัฐบาลประกาศสภาวะฉุกเฉินเชื่อว่า ขั้นแรก จะมีการบุกเข้ามาจับกุมแกนนำ แต่เมื่อแกนนำถูกจับไปแล้ว ก็จะมีคนและองค์กรต่างๆ มาชุมนุมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น ขอให้พี่น้องอดทนกันอีกนิด เชื่อว่าทุกอย่างจะจบภายในวันนี้หรือพรุ่งนี้อย่างแน่นอน ขอรับรองว่าเราจะต้องชนะแน่นอน" พล.ต.จำลองกล่าว และว่า มติของแกนนำ จะไม่เรียกร้องทหาร ไม่ชม ไม่ด่า ไม่สนใจ จะทำอะไรหรือไม่ทำก็เรื่องของคุณ แต่เรื่องพันธมิตรคือการกู้ชาติ

ติง"อนุพงษ์"ระวังใช้อำนาจพ.ร.ก.ฉุกเฉิน

ด้านนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตร ร่วมแถลงข่าวที่ห้องสื่อมวลชน ว่าแกนนำพันธมิตรหารือและได้ข้อสรุปว่าเราจะปักหลักชุมนุมต่อไปเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย นั่นคือนายสมัคร สุนทรเวช นายกฯ และ ครม.ชุดนี้จะต้องลาออก และไม่มีรัฐบาลที่มาจากพรรคพลังประชาชน ส่วนที่ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้นเกิดจากการสร้างสถานการณ์ของรัฐบาลจนเกิดความรุนแรง เห็นได้ชัดว่าตำรวจเปิดทางให้ นปช.เข้ามา เพื่อที่จะปราบปรามประชาชน ถือเป็นการยกระดับการต่อสู้ของรัฐบาล

"เป็นแผนของนายสมัคร ที่จะให้ประชาชนเผชิญหน้ากับทหาร ถ้า พล.อ.อนุพงษ์ ไม่ระมัดระวังในการใช้อำนาจ จะไม่ต่างจากเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 หรือพฤษภาทมิฬ ปีž35 ถ้าหากรัฐบาลใช้กำลังสลายการชุมนุมจนเกิดความสูญเสียก็จะถือเป็นรัฐบาลทรราช ที่จะทำให้ประชาชนต้องขับไล่มากยิ่งขึ้น" นายพิภพกล่าว

ด้านนายกษิต ภิรมย์ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำสหประชาชาติ กล่าวบนเวทีปราศรัยที่ทำเนียบ ว่าอยากเขียนจดหมายถึงคุณหญิงสุรัตน์ ภริยานายสมัคร เพื่อขอให้นำตัวนายสมัครกลับไปทำกับข้าวที่บ้าน ดีกว่าจะมาทำกับข้าวเปื้อนเลือด เพราะเคยเปื้อนเลือดมาจากเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 และพฤษภาทมิฬ หากเดือนกันยายนนี้จะเป็นคนทำให้เกิดเหตุนองเลือดอีก เกรงว่าผลกระทบจะไปตกอยู่กับคุณหญิงสุรัตน์ และบุตรสาวฝาแฝดทั้ง 2 คนด้วย

พันธมิตรปิดถนนคุ้มกัน"เอเอสทีวี"

เมื่อเวลา 10.00 น. บริเวณบ้านพระอาทิตย์ที่ตั้งสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี มีกระแสข่าวว่าทหารและ นปช.จะปิดสถานีโทรทัศน์เอไอเอสทีวี ทำให้กลุ่มพันธมิตรที่วางกำลังไว้อยู่เดิมและที่เข้ามาเสริม 200-300 คน วางกำลังเพื่อรักษาความปลอดภัยบริเวณทางเข้าออกสถานีเอเอสทีวี โดยมีการตรวจตราผู้เข้าออกสถานที่ดังกล่าวอย่างเข้มงวด กระทั่งเวลา 13.30 น. กลุ่มพันธมิตรได้ทำการปิดถนนพระอาทิตย์ทั้งเส้น ซึ่งมีความยาว 3 กิโลเมตร โดยนำยางรถยนต์และลวดหนามมาปิดถนนไว้เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่เข้าปิดการออกอากาศ หลังมีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
เพื่อรักษาความปลอดภัยและพยายามให้รถที่จอดอยู่ในบริเวณดังกล่าวเคลื่อนย้ายออกไป
ขณะที่พิธีกรบนเวทีที่ทำเนียบรัฐบาลประกาศว่า เริ่มมีการตัดสัญญาณเคเบิลทีวีในต่างจังหวัดบ้างแล้ว หากมีการตัดสัญญาณเอเอสทีวี พันธมิตรก็จะไปตัดไฟบ้านนักการเมืองรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นบ้านของนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน และนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา

ขณะที่ในช่วงบ่าย สัญญาณการถ่ายทอดสดการชุมนุมในทำเนียบผ่านโทรทัศน์เอเอสทีวีมีปัญหา โดยสัญญาณขาดหายไปเป็นระยะๆ

ช่วงเช้าผู้ชุมนุมพันธมิตรบางตา

สำหรับบรรยากาศการชุมนุมพันธมิตร ภายในทำเนียบรัฐบาลในช่วงเช้าวันที่ 2 กันยายน หลังเกิดเหตุปะทะกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต และหลังมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ทางแกนนำพันธมิตรได้หารือกันเป็นการเร่งด่วนเพื่อหามาตรการตอบโต้ ขณะที่ผู้ชุมนุมเริ่มทยอยออกจากทำเนียบ ส่วนหนึ่งกลับไปทำงาน แต่มีส่วนหนึ่งเกรงว่าอาจเกิดเหตุการณ์รุนแรงหลังประกาศภาวะฉุกเฉิน ทำให้ผู้ชุมนุมในช่วงเช้าค่อนข้างบางตา ทางแกนนำหลายคนจึงต้องขึ้นเวทีปราศัยเรียกร้องให้ประชาชนทั้งในกรุงเทพฯและรอบๆ ร่วมชุมนุม
โดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตร กล่าวบนเวทีว่า การออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต้องการดึงทหารเข้ามาปราบปรามประชาชน พี่น้องที่เคยชุมนุมร่วมกันมาตลอด หากยังเชื่อและศรัทธาว่าสิ่งที่เราทำนั้นถูกต้อง ก็ต้องออกมาร่วมชุมนุม ไม่ใช่ดูอยู่แค่ที่หน้าจอทีวี หรือบนโต๊ะอาหาร หากเราต้องการแผ่นดินที่มีศีลธรรมจริยธรรมกลับคืนมา แสงสว่างจะเริ่มเห็นก็ต่อเมื่อพวกเรามาชุมนุมกัน ดังนั้นขอให้ประชาชนออกมาทำในสิ่งที่เชื่อและศรัทธา ขอให้ออกมาร่วมชุมนุมกันขณะที่นายศรัณยู วงษ์กระจ่าง พิธีกรบนเวทีก็เชิญชวนให้คนทางบ้านออกร่วมชุมนุมอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งเชิญชวนดาราให้ออกมาร่วมกับกลุ่มพันธมิตร

ไม่มีความคิดเห็น: