นพดลไม่ประชุมมรดกโลก ถกครม.อุทธรณ์คำสั่งศาล!!!

นพดลไม่ประชุมมรดกโลก ถกครม.อุทธรณ์คำสั่งศาล [28 มิ.ย. 51 - 17:42]

วันนี้ (28 มิ.ย.) นายธฤต จรุงวัฒน์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยภายหลังการประชุมด่วนกรณีศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามนำมติคณะรัฐมนตรี ที่ลงนามแถลงการณ์ร่วมรัฐบาลกัมพูชา สนับสนุนการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ว่า กระทรวงการต่างประเทศจะปฏิบัติตามคำสั่งของศาลปกครอง โดยจะยุติการให้ข่าวเรื่องดังกล่าว ส่วนการยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองนั้น นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะหารือร่วมกับคณะรัฐมนตรี เพราะเป็นผู้ถูกฟ้อง

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังกล่าวถึงการเดินทางไปร่วมประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ที่ประเทศแคนาดา ในวันที่ 2 ก.ค.นี้ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับทราบว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกำหนดการหรือไม่อย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมด่วนครั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมการประชุม อาทิ อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมายต่างประเทศ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก อธิบดีกรมสารนิเทศ และในวันจันทร์นี้ กระทรวงการต่างประเทศก็ได้ยกเลิกการสัมมนากรณีเข้าพระวิหารแล้ว

ด้านนายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิเสธให้ความเห็นถึงผลคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลปกครอง เนื่องจากเรื่องนี้อยู่ในกระบวนการของศาลแล้ว แต่ยอมรับกระทบต่อการเดินทางไปประชุมร่วมกับกรรมการมรดกโลกวันที่ 2 ก.ค.นี้ ที่ประเทศแคนาดา โดยอาจต้องมีการปรับคณะที่จะเดินทางไป ซึ่งตอนแรกมีชื่อของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอยู่ด้วย

วันเดียวกัน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเงา ของพรรคประชาธิปัตย์ ออกแถลงการณ์กรณี นายฮอ นัม ฮง รัฐมนตรีว่าการกระทวงการต่างประเทศกัมพูชา กล่าวพาดพิงถึงพรรคการเมืองบางพรรค พยายามใช้กรณีการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของปราสาทเขาพระวิหารโดยกัมพูชา เพื่อเป็นประโยชน์ทางการเมือง ว่า พรรคประชาธิปัตย์รู้สึกไม่สบายใจ ที่มีบุคคลสำคัญของประเทศเพื่อนบ้านสำคัญ ได้แสดงทัศนะเช่นนี้ ต่อการเมืองภายในของไทย

พรรคประชาธิปัตย์ยังคงยืนยันจุดยืนที่เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย กล่าวคือ พรรคเล็งเห็นคุณค่าทางประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม วัฒนธรรม และศาสนา โดยเห็นสมควรอย่างยิ่งที่จะขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร หากการขึ้นทะเบียนจะต้องเป็นไปตามหลักการที่ถูกต้อง และสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง พรรคให้ความสำคัญสูงสุดต่อความสัมพันธ์อันดี และความร่วมมืออันแนบแน่นระหว่างไทยและกัมพูชา โดยความสัมพันธ์ดังกล่าว ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกัน ความเข้าใจตรงกัน และความตั้งใจที่จะไม่เอารัดเอาเปรียบระหว่างกัน

ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์มิได้เป็นฝ่ายเดียว ที่แสดงความกังวลต่อการดำเนินการของรัฐบาลไทย ยังมีสมาชิกวุฒิสภา ที่ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง สื่อมวลชน นักกฎหมาย นักวิชาการ และตัวแทนประชาสังคมที่แสดงจุดยืนเช่นเดียวกับพรรคฯ ยิ่งไปกว่านั้น ล่าสุด ศาลปกครองกลางได้รับพิจารณาคำคัดค้ามติคณะรัฐมนตรี ในการยื่นขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยกัมพูชาเพียงฝ่ายเดียวอีกด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาว จ.ศรีสะเกษ ยังคงเคลื่อนไหวต่อต้านกรณีปราสาทเขาพระวิหาร โดยกลุ่มสมัชชาประชาชนและชมรมรถเก่า จ.ศรีสะเกษ ได้เรียกร้องให้กัมพูชาคืนเขาพระวิหารให้แก่คนไทยร่วมกับคณะธรรมยาตราที่ยังปักหลักประท้วงอยู่บนเขาพระวิหาร แต่ไม่ได้บุกเข้าไปในเขตติดต่อบริเวณหน้าประตูเหล็กกั้น ท่ามกลางการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของทหารอย่างใกล้ชิด

Credit:http://www.thairath.co.th/

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

จากความคิดเห็นของเหล่าพลพรรค

จากที่ได้มองผ่านแล้ว จึงรู้สึกว่าปัญหาของเขาพระวิหารกลายเป็นปัญหาบานปลายที่คนให้ความสนใจมากกว่าเรื่องของเศรษฐกิจของชาติ ทั้งจากในช่วงท้ายของข่าวจะเห็นว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านอีกแล้ว นั่นแสดงว่าเกิดความแตกแยกกันในบ้านเมืองของประเทศไทยอีกครั้ง ปัญหาครั้งนี้ในเรื่องของการลงทะเบียนมรดกโลกจึงกลายเป็นปัญหาใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ และหากเป็นอย่างที่คิดไว้ คาดว่าคงจะต้องมีปัญหากันอีกยาวนาน

.

.

.

.

แล้วคุณล่ะมีความเห็นว่าอย่างไร????