08 กันยายน 2551

สารพัดวิธี “ปลดล็อก” “เครียดการเมือง” ไม่มีคนกลางก็ “แก้” ได้


เพราะ “การเมือง” ก็เป็นเรื่องสำคัญที่มีผลต่อประเทศในหลายด้าน สื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ จึงต้องทำหน้าที่รายงานสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นต่อสาธารณชน แต่เพราะ “ปัญหาการเมือง” ที่เกิดขึ้นช่วงนี้แต่ละฝ่ายต่างก็ยืนยันในจุดยืนของฝ่ายตน มีการประนีประนอมกันค่อนข้างน้อย ข่าวการเมืองระยะนี้จึงออกแนว “วุ่นวาย”ประชาชนจำนวนไม่น้อยเลยที่บอกว่า “เบื่อสุด ๆ”บางส่วนก็ถึงกับตกอยู่ในภาวะ “เครียดการเมือง” และก็พยายามหา “วิธีคลายเครียด” แตกต่างกันไป.....กับประเด็น “เครียด” ทั่ว ๆ ไปนั้น จากวงสัมมนาสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทยมีการระบุว่า...คนไทยมีแนวโน้มจะมีปัญหาสุขภาพจิตร้อยละ 10 จากประชากรทั้งหมด หรือประมาณ 6 ล้านคน โดยระดับอาการ ทางจิตที่พบมากคือ “โรคจิตเภท” และ “โรคอารมณ์ปรวนแปร” ซึ่งคนไทยมีแนวโน้มความเสี่ยงเพิ่มขึ้นกว่าในอดีตขณะที่ “เครียดการเมือง” ในเวลานี้ มีผลการสำรวจเรื่อง “การเมืองวันนี้ กับความรู้สึกของประชาชน” ของสวนดุสิตโพลที่รวบรวมจาก กลุ่มตัวอย่าง 1,173 คน พบว่า...ด้านสภาพจิตใจประชาชนร้อยละ 51.66 เกิดอาการห่อเหี่ยวและหดหู่ ร้อยละ 48.34 รู้สึกเฉย ๆ ส่วนผลกระทบ ต่อความเครียด กลุ่มตัวอย่าง ร้อยละ 68.54 ยอมรับว่าเครียดมากขึ้น ขณะที่ร้อยละ 31.46 เห็นว่าเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ...“ยอมรับว่าเครียด แต่ไม่มากเท่ากังวลใจ ไม่อยากให้บ้านเมืองเป็นอะไรไปในตอนนี้ เรื่องสภาพจิตใจก็พยายามเก็บแรงเก็บสมองไว้สำหรับการทำมาหากิน” ...เป็นการบอกเล่าของคนขับรถแท็กซี่ที่ชื่อ จรินทร์ ที่ติดตามสถานการณ์การเมืองโดยการฟังจากวิทยุในรถเป็นหลัก และจากสื่ออื่นบ้างเป็นครั้งคราว “มีบ้างที่ฟังข่าวแล้วเครียด แต่ไม่ได้มากมายจนต้องอินตลอด ตอนนี้วิธีเลี่ยงคือหากเครียดปุ๊บก็เปลี่ยนคลื่นปั๊บ ก็หันไปฟังเพลงแทน หรือไม่ก็ปิดวิทยุไปเสียเลย” ...คนขับแท็กซี่กล่าววีรพงษ์ พวงเล็ก พนักงานมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง รายนี้บอกว่า... ติดตามข่าวประจำ แต่ไม่คิดจะเอามาผูกพันกับชีวิตจนเกินไป เพราะอาจส่งผลต่อสภาพจิตใจและการทำงาน ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่าไม่สนใจหรือไม่รักประชาธิปไตย แต่คิดว่าก็มีหลายฝ่ายออกมาทำงานอยู่แล้ว และสุดท้ายคงจะคลี่คลายไปได้ “วิธีคลายเครียดจากข่าวการเมืองที่วุ่นวาย ก็ใช้วิธีอ่านหนังสือ หรือดูรายการโทรทัศน์ประเภทเรียลลิตี้โชว์ ก็ช่วยคลายเครียดได้ในระดับหนึ่ง” ...วีรพงษ์บอก ด้านพนักงานบริษัทเอกชน วิภาภัทร จันทรสุวิทย์ ที่เมื่อมีเหตุการณ์การเมืองที่สำคัญก็มักจะติดตามโดยตลอด พูดถึงปัญหาการเมือง ไทยช่วงนี้ว่า... “เบื่อมาก...เพราะยืดเยื้อไม่จบสิ้น !!” ก็พยายามจะไม่ติดตามจนมากเกินไป แต่เวลานี้แทบทุกสื่อจะให้น้ำหนักข่าวการเมืองจนล้น ทำให้คน เกิดความเครียด อดรู้สึกไม่ได้ว่าซ้ำซาก น่าเบื่อหน่าย ซึ่งในฐานะประชาชนก็อยากจะรู้เรื่องอื่น ๆ ด้วย อยากให้สื่อนำเสนอเนื้อหาที่หลากหลายเหมือนปกติ“กับตัวเองจะใช้วิธีเปลี่ยนช่องทีวีไปเลย ซึ่งช่วงหลัง ๆ มักจะทำแบบนี้ถ้าเผอิญเปิดไปเจอกับข่าวการเมือง จะเปิดไปดูพวกรายการไร้สาระทันที ซึ่งคิดว่าหลาย ๆ คนก็คงใช้วิธีแบบนี้แก้เครียด”ณรินทร อมรสิทธิพันธ์ อาชีพพนักงานบริษัท ยอมรับว่า... แม้จะเป็นคอการเมือง แต่ก็ “ทั้งเครียด...ทั้งเบื่อ !!” ยิ่งติดตามข่าวสารก็รู้สึกว่าสถานการณ์พลิกไปพลิกมาตลอด ยิ่งดูก็ยิ่งงง และมองไม่เห็นทางออกว่าจะลงเอยด้วยดีอย่างไร จนทำให้เกิดอาการเครียดแบบไม่รู้ตัว ซึ่งบางครั้งก็ต้องหาวิธีคลายเครียดให้กับตัวเอง“ตามข่าวมาก ๆ แล้วก็เครียด ถ้าเป็นทีวีก็จะเปลี่ยนช่องไปดูรายการอื่นเพื่อผ่อนคลาย บางครั้งก็พยายาม
ไม่ดู ไม่ฟัง ไม่อ่านข่าว ปกติงานประจำก็ทำให้เครียดอยู่แล้ว ก็จะพยายามผ่อนคลายโดยการหาหลีกิจกรรมอย่างอื่นทำ อย่างเช่นคุยโทรศัพท์กับเพื่อน ชวนกันไปฟิตเนส หรือถ้าไม่อยากจะออกไปไหนก็ใช้การนั่งสมาธิ หรือไม่ก็ชงชาร้อน ๆ หามุมสงบ ๆ อ่านหนังสือเนื้อหาเบา ๆ สักเล่ม จิบไปอ่านไป หรือไม่ก็ไปร้านเสริมสวยหมดเรื่องหมดราวไป” ...เป็นวิธีดับเครียดของพนักงานบริษัทรายนี้ขณะที่บางคนอย่างเช่น ปริณา เตียวประเสริฐ ก็ใช้วิธีพยายามสร้างเกราะเอาไว้ก่อน โดยเจ้าตัวบอกว่า... ข่าวการเมืองนั้นก็ติดตามอยู่ เป็นคนที่ชอบ และสามารถติดตามได้ตลอด ถ้าถามว่าเครียดหรือไม่กับข่าวการเมือง...ก็บอกได้ว่าไม่เครียด เพราะตามข่าวแค่ต้องการรับทราบความเคลื่อนไหวทางการเมืองในบ้านเรา “จะไม่อินไปกับข่าว เพื่อไม่ให้เครียด แต่ถามว่าถ้าเกิดเครียดแล้วจะมีวิธีไหนคลายเครียด ก็แค่หยุดดูข่าวอ่านข่าวการเมือง ไปหาหนังสือพิมพ์กีฬาอ่าน นั่งจิบกาแฟ แค่นี้ก็พอแล้ว” ...ปริณาว่าส่วน วันเพ็ญ วงศ์สวัสดิ์ อาชีพค้าขาย ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ติดตามสถานการณ์การเมืองในช่วงนี้อย่างใกล้ชิด และมีวิธีเด็ดทำให้ตนเองไม่เครียด โดยบอกว่า... ถ้าอยู่บ้านไม่ได้ออกไปค้าขายก็จะติดตามข่าวตลอด เพราะต้องการรู้สถานการณ์ต่าง ๆ แต่ถามว่าเครียดมั้ยกับข่าวการเมือง...ไม่เครียด เพียงแต่มักจะเกิดอาการหงุดหงิดใจมากกว่า “พอแค่หงุดหงิดก็จะระบายออกเลย ด้วยวิธีการด่าใส่คนที่ไม่ชอบอยู่ที่หน้าโทรทัศน์ !! เพื่อระบาย ไม่ต้องไปใช้วิธีอื่นให้วุ่นวาย” ...เป็นวิธีของวันเพ็ญ...ซึ่งเชื่อว่าหลายคนก็อาจจะเคยใช้เป็นประจำ ?!? “การเมืองไทย” ยังไง ๆ คนไทยก็ต้องสนใจติดตามเอาไว้บ้างถ้า “เครียด” ก็เลือก “วิธีคลายเครียด” เอาตามสะดวก !!!!.

ไม่มีความคิดเห็น: