"ไอ้บ้า" ใครกันแน่?ปาก พ่นน้ำมัน อุปมา "ฆ่า" โต้ตอบ "พันธมิตร" ไม่บาป? หมวด » เรื่องนี้ต้องขยาย » การเมือง
"ไอ้บ้า" ใครกันแน่?ปาก พ่นน้ำมัน อุปมา "ฆ่า" โต้ตอบ "พันธมิตร" ไม่บาป?
ใครคือ "ไอ้บ้า" กันแน่ ระหว่างสมาชิกกลุ่มธรรมยาตรา 3 คนที่เดินข้ามลวดหนามเข้าไปนั่งทำสมาธิควบคุมจิตใจตัวเองได้สงบอหิงสาใน "พื้นที่ทับซ้อน" บริเวณปราสาทพระวิหาร
กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : กับ "นายกรัฐมนตรีของเรา" ที่เกิดอาการควบคุมตัวเองไม่ได้ พูดจาไม่ตรงกับงานที่เจ้าภาพเชิญไปกล่าวเปิดงานอย่างไม่ค่อยถูกกาลเทศะในระหว่างการกล่าวเปิดงาน "มหกรรมมั่นใจไทยแลนด์"
บอกว่าไอ้บ้า 3 คนหาเรื่องเดินเข้าไปในเขตเขมร หวังจะทำให้เกิดเรื่องความเข้าใจผิดระหว่างไทยกับกัมพูชา "นายกรัฐมนตรีของเรา" แทนที่จะใช้เวลาส่วนใหญ่พูดถึงวัตถุประสงค์งานของเจ้าภาพกระทรวงการคลังที่อุตส่าห์จัดใหญ่โตเพื่อขายสินค้าราคาถูกเร่งช่วยเหลือค่าครองชีพชาวบ้าน
ผมเห็นว่า "นายกรัฐมนตรีของเรา" น่าจะเป็น "ไอ้บ้า" มากกว่าสมาชิกกลุ่มธรรมยาตรา 3 คนที่มีความหวงแหนดินแดนและอธิปไตยของไทยบริเวณพื้นที่ทับซ้อนเขาพระวิหาร แต่ "นายกรัฐมนตรีของเรา" กลับกล่าวหาคนไทย 3 คนที่ต้องการทดสอบว่ารัฐบาลกัมพูชาจะแสดงท่าทีอย่างไร เมื่อคนไทย 3 คนเข้าไปในพื้นที่ทับซ้อน
ซึ่งก็ได้เห็นแล้วว่าในขณะที่ประเทศไทยยังเคารพในอธิปไตยบนพื้นที่ทับซ้อนที่ยังไม่มีข้อยุติ จึงไม่ได้ถือว่าเป็นดินแดนของไทยอย่างสมบูรณ์ แต่ดูเหมือนว่ารัฐบาลกัมพูชาได้แสดงสิทธิเหนือพื้นที่ทับซ้อนว่าเป็นของกัมพูชา ด้วยการส่งทหารเขมรเข้าไป "จับตัว" คนไทย 3 คนไปสอบสวนนานหลายชั่วโมง
มิหนำซ้ำยังส่งจดหมายมาเชิง "สั่ง" กองทัพให้ถอนทหารออกจากพื้นที่บริเวณเขาพระวิหารที่ประจำการอยู่ในเขตแผ่นดินไทย แต่กองทัพกัมพูชากลับเสริมกำลังพร้อมอาวุธหนัก หันปากกระบอกเข้ามาประจันหน้าในบริเวณชายแดนเขาพระวิหารกับทหารไทย
"ไอ้บ้า" ที่ไม่ค่อยรู้กาลเทศะว่าเจ้าภาพให้เกียรติเชิญไปกล่าวเปิดงาน แต่กลับไปจัดรายการ "ปากสว่าง" ด่าคนอื่นเป็นว่าเล่นแข่งกับ "ตาสว่าง" ของคุณดู๋ พักหลังๆ อาการบ้าแบบนี้เกิดบ่อยขึ้นแทบจะทุกงาน จนกลายเป็น "แบรนด์ประจำตัว" ที่เจ้าภาพรำคาญจนไม่ถือสาหาความกับคนแก่คนนี้ที่ทำท่าจะเป็น "ไอ้บ้า" ไปแล้วจริงๆ ถึงขนาดเคยด่าเด็กผู้หญิงที่คุมเวลาบนเวทียื่นกระดาษให้เพื่อบอกว่าเลยเวลาพูดไปมากแล้ว
ดังสุภาษิตไทยที่ไม่ค่อยอยากไปยุ่งกับคน 2 ประเภทคือ "อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา" เพราะจะไม่เกิดประโยชน์อันใด เสียเวลาทำงานเปล่าๆ
"ไอ้บ้า" ที่อายุปูนนี้ย่าง 74 ปีแล้วยังควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ในการจัดรายการโทรทัศน์สดๆ อยู่คนเดียวทุกเช้าวันอาทิตย์
ที่มีลูกเด็กเล็กแดงนั่งอยู่หน้าจอรอดูการ์ตูนโทรทัศน์ในตอนเช้าวันอาทิตย์ ตะคอกด่าแม้กระทั่งเด็กยกป้ายว่าหมดเวลารายการว่าจะไม่ให้พูดต่อ ทั้งๆ ที่เลยเวลาออกอากาศไปเกือบ 5 นาทีแล้ว จนทำให้สัปดาห์ต่อมาไม่มีใครกล้ายกป้ายบอกว่าหมดเวลาออกรายการแล้ว ปล่อยเลยตามเลยจนกินเวลารายการอื่นไปร่วม 30 นาที ยังไม่เคยเห็นผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์คนไหนนิสัยแย่ขนาดนี้
"ไอ้บ้า" ที่ไม่ยอมรับว่าความทุกข์ของตัวเองเกิดจากการกระทำความผิดของตัวเองและพวกพ้อง
แต่กลับไปโทษรัฐธรรมนูญว่าเป็น "เหตุแห่งทุกข์" แล้วกลับมากลืนน้ำลายขอแก้ไขอีกเพื่อหาทางให้ตัวเองและพวกพ้องพ้นจากความผิดที่เป็น "เหตุแห่งทุกข์" มากกว่า
เปรียบได้กับนักฟุตบอลที่เล่นผิดพลาด แต่กลับไปชวนทะเลาะโทษคนดู,นักข่าวช่างภาพ,กรรมการผู้ตัดสินและกติกาที่เข้มงวดขึ้น เพื่อไม่ให้นักฟุตบอลเอาแต่เล่นตุกติกนอกเกมเพื่อหาช่องเอาเปรียบคู่แข่งขัน
ถ้า "นายกรัฐมนตรีของเรา" และรัฐมนตรีไม่ได้ทำผิดกติกาใดๆ องค์กรอิสระหรือศาลจะเล่นงานได้หรือไม่? เหตุแห่งทุกข์น่าจะมาจากการกระทำความผิดของตัวเองมากกว่ากติกาเข้มงวดเกินไปมากกว่ากติกาที่กำหนดให้ทุกคนเล่น
"ไอ้บ้า" ที่ควบคุมปากไม่ได้ จนปากมักพาไปด่าคนอื่นก่อน โดยไม่เคยรู้จักจดจำสักครั้งเดียวว่ามักพูดข้อมูลผิดเป็นประจำ ไม่ทำการบ้านตรวจสอบข้อมูลก่อนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
อาการบ้าๆ จึงแสดงออกมาทุกครั้งเมื่อมี "งานเข้า" สะกิดต่อม "อคติของคนแก่" จนอาการออกปากพะงาบในอัตราถี่ยิบยิงคำพูดด่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ยาวหลายนาที ออกอากาศไปทั่วบ้านทั่วเมืองว่าป.ป.ช.เป็นองค์กรเถื่อนที่ไม่ได้ถวายสัตย์ต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะมาตรวจสอบตัวเองที่ถวายสัตย์ได้อย่างไร
แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นคนละเรื่องโดยสิ้นเชิง สำนักราชเลขาธิการสำนักราชวังแจ้งว่าป.ป.ช.ไม่ต้องถวายสัตย์ก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างถูกต้องชอบธรรมภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธย
"ไอ้บ้า" ที่อยู่ดีๆ แทนที่จะแถลงข่าวอธิบายมาตรการช่วยชาวบ้าน 6 มาตรการให้ชาวบ้านเข้าใจถ่องแท้
แต่กลับออกอาการคุมปากไม่ได้ตามเคย สงสัยว่าปากจะป่วยจนเน่าจึงปากพาไปจนถึงขั้นพูดยุยงให้คนไทย "ฆ่ากัน" ราดน้ำมันลงไปบนความขัดแย้งของสังคม ทำนองว่ามึงฆ่าพวกกูเป็นว่าเล่น ถึงเวลากูจะไล่ฆ่าพวกมึงบ้าง อย่าโวยก็แล้วกัน
ฟังแล้วแทบไม่น่าเชื่อว่าประโยคยุยงราดน้ำมันลงไปบนกองเพลิงให้ใช้ความรุนแรงตอบโต้กันเช่นนี้ จะออกมาจากปาก "นายกรัฐมนตรีของเรา" จนแทบแยกไม่ออกว่าชายแก่คนนี้ที่มีนิสัยที่แก้ไม่หายคือ "ปากมาก" ยังเป็นผู้นำประเทศของเราหรือผู้นำแก๊งนักเลงข้างทำเนียบของอดีตนายกฯกันแน่
แทบไม่แตกต่างจากยุคก่อนเกิดเหตุการณ์สังหารหมู่ 6 ตุลาคม 2519 ที่ พระชั้นผู้ใหญ่ "กิตติพุทโธ" ให้สัมภาษณ์นิตยสารฉบับหนึ่ง บอกว่า "ฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป" จนทำให้กลุ่มขวาจัดสมัยนั้นทั้งกระทิงแดง,นวพล,ลูกเสือชาวบ้าน ฯลฯออกมาใช้ความรุนแรงกับกลุ่มนักศึกษาและประชาชนที่ต่อต้านการกลับมาของจอมเผด็จการ
ปี2551 มีการจัดตั้งกลุ่มต่างๆ เช่น นปก.,นปช.,พิราบขาว ,พีทีวี ฯลฯ ออกมาระรานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่เว้นแต่ละวันเพื่อสกัด ไม่ให้กลุ่มพันธมิตรชุมนุมแอนตี้ก่นด่ารัฐมนตรีบางคนที่เดินทางไปตรวจงานหรือเดินทางไปเปิดเวทีต่อต้านรัฐบาล
ความรุนแรงจึงเริ่มระบาดไปทั่วทุกจังหวัด ภาพข่าวกลุ่มพันธมิตรกับกลุ่มต้านพันธมิตรประจันหน้ากันผ่านสื่อโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ กลายเป็นภาพชินตาและเป็นความทุกข์ของผู้คนในแผ่นดินที่หวั่นๆ อยู่ในใจว่าสักวันหนึ่งบ้านเมืองจะต้องนองเลือดอย่างแน่นอน
หาก "ไอ้บ้า" ยังเป็นผู้นำประเทศที่ไม่ได้ใส่ใจในการแก้ปัญหาความแตกแยกในสังคมให้กลับคืนมาโดยเร็ว แต่กลับใช้ "ปาก" ตอกลิ่มราดน้ำมันลงไปอีก จนคนไทย 2 กลุ่มกำลังจะไปถึงจุดควบคุมตัวเองไม่ได้จำต้องใช้อาวุธเข่นฆ่ากันอย่างแน่นอน
เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะไม่กล้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดเพื่อยุติเหตุการณ์พี่น้องคนไทยทะเลาะกัน จำใจต้องเข้าข้างตามคำพูดของ "ไอ้บ้า" อย่างแน่นอนที่ส่งสัญญาณไฟเขียวให้ "ฆ่า" อีกฝ่ายในทุกช่องทาง
แล้ว "ไอ้บ้า" คงจะออกมาพูดเหมือนกับเคยปากทำนองนี้มาแล้วในวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ว่าน่าจะฆ่าพวกนี้ให้ตายไปบ้าง อาจจะสักหมื่นคนในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แลกกับการทำให้ประเทศดีขึ้นถือว่าคุ้ม
"ไอ้บ้า" ที่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับการยึดเวลาทองของโทรทัศน์ช่อง 5 ตอนเที่ยงวันที่ 17 กรกฎาคม ปล่อยให้แพร่ภาพกลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ 3 คนใส่หนวดปลอมคิ้วปลอมสวมแว่นตาดำ ออกมา "โกหกตอแหล" ว่าประกาศสั่งกลุ่มก่อการร้ายทุกกลุ่มให้หยุดปฏิบัติการความรุนแรงใน สาม จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยสถานะรัฐมนตรีกลาโหมย่อมหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบไม่ได้หรือไม่รู้มาก่อนไม่ได้ว่าอดีตผู้บัญชาการทหารบกยังมีอำนาจบารมีขอให้ช่อง 5 แพร่ภาพเรื่องสำคัญของประเทศได้
ถ้าหากเป็นเรื่องจริงภาคใต้จะสงบภายใน 1 เดือนข้างหน้าก็เป็นบุญของประเทศ แต่ถ้าหากหลังจากนี้เหตุการณ์รุนแรงขึ้นจากการไม่ยอมรับคำประกาศหยุดยิงของโจรรุ่นเก่า 3 คนที่สามารถยึดเวลาโทรทัศน์กองทัพบกและโทรทัศน์ทุกช่องในประเทศออกอากาศ โจรก่อการร้ายตัวจริงย่อมจะแสดงอิทธิฤทธิ์ให้เห็นว่ายังไม่หยุดยิง
"ไอ้บ้า" คนไหนจะรับผิดชอบกับชะตากรรมของประเทศและพี่น้องสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่อาจจะถึงขั้น "เสียดินแดน" ให้กับกลุ่มโจรภาคใต้
พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาจะรับผิดชอบในฐานะอะไรจึงจะบรรเทาความเสียหายได้ บุคคลที่ควรจะต้องแสดงความรับผิดชอบกับความเสียหายในอนาคตคือ "นายกรัฐมนตรีของเรา" ที่มีตำแหน่ง "รัฐมนตรีกลาโหม" พ่วงด้วย
แต่เชื่อเถอะจะไม่มี "ไอ้บ้า" คนไหนประกาศรับผิดชอบเรื่องนี้ เพราะจะอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นว่าใครไปทำอะไรที่ช่อง 5 เล่นในการละครโจรกลับใจลวงโลก
ขอยืมสำนวนภาษาพูดติดปากของ "ไอ้บ้า" ที่เป็นผู้นำประเทศว่าประเทศนี้จะมี "ไอ้บ้า" นั่งเป็นนายกรัฐมนตรี "หาหอก" ไปทำไม?กันวะ อุบาทว์แท้ๆ พวกเรา "รัฐบาลสัตว์นรก" จะไม่มีวันยอมให้ไอ้พวกถ่อยสถุลพันธมิตรมา "ฆ่า" ฝ่ายเดียวแล้วอีกต่อไป
เศร้ามากกับการอยู่ในตำแหน่งที่มีผลมากที่สุดต่อชะตากรรมประเทศของ "ไอ้บ้า" ขนานแท้และดั้งเดิมที่พิสูจน์จากดั้งจมูกต้องบานรูกว้าง พร้อม "ปากเน่า" กำลังพ่นน้ำลายอย่างไม่รู้กาลเทศะที่ไม่ต่างจาก "พ่นน้ำมัน" ราดเข้าสู่กองเพลิงความขัดแย้งนำพาประเทศไทยให้จมดิ่ง ไปสู่การใช้ความรุนแรงเข้าห้ำหั่นฆ่ากันอย่างค่อนข้างแน่นอน
04 กันยายน 2551
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น