09 สิงหาคม 2552

“อดีตทนายทักษิณ” โต้ "บวรศักดิ์" ยันถวายฎีกาได้ “บุญจง” ระบุคนค้านฎีกา 2 ล้านคนแล้ว

8 ส.ค. 52 -นายพิชิต ชื่นบาน อดีตทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีที่ดินรัชดา ออกแถลงการณ์ฉบับที่สองแสดงความเห็นที่แตกต่างเรื่อง“การใช้สิทธิทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาตามกฎหมายและประเพณีของนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ราชบัณฑิต” ความยาว 20หน้ากระดาษ เนื้อหาใจความสำคัญว่า สืบเนื่องจากมีกลุ่มบุคคลจำนวนหนึ่งรวมทั้งนักการเมืองจากซีกรัฐบาล ได้โต้แย้งคัดค้านต่อการใช้สิทธิทูลเกล้าฯ ในลักษณะที่เป็นพฤติกรรมข่มขู่เพื่อหวังผลให้ผู้ดำเนินการยุติในเรื่องลงชื่อทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา โดยวิธีการลดความน่าเชื่อถือของฎีกา
ด้วยความพยายามขยายความบางประเด็นของสาระที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายและประเพณีไทย และชี้นำให้เห็นว่ามีจุดผิดพลาดในการเสนอเหตุผลและแสดงความเห็นผ่านข้อมูลจากวรรณกรรมต่างๆที่นำมาใช้อ้างอิง แต่แอบแฝงด้วยวาทกรรมในด้านต่างๆ ดังนั้นได้ตรวจสอบบทความเรื่องการใช้สิทธิทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาตามกฎหมายและประเพณีของ ศ.ดร.บวรศักดิ์ แล้วพบว่า การอ้างข้อกฎหมายมีความคลาดเคลื่อนต่อข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายในหลายประการ
เขากล่าวว่า ตัวอย่างประเพณีในการยื่นทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของไทยที่ประชาชนผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้องระดับนักวิชาการของประเทศ 99 คนได้ทำเป็นแบบอย่างประเพณีไว้ คือ เหตุการณ์ยื่นฎีกาเดือนมิ.ย. 2531 ขณะนั้นพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อตรวจสอบรายชื่อนักวิชาการแล้วพบว่า ศ.ดร.บวรศักดิ์ เป็นหนึ่งในนักวิชาการที่ร่วมลงลายมือชื่อ นอกจากนี้ยังปรากฏรายชื่อ ศ.ธงทอง จันทรางศุ ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง โดยเนื้อหาฎีกากล่าวถึงความวุ่นวายทางการเมือง การแตกแยกความสามัคคีในหมู่ทหาร ข้าราชการและประชาชน ก็เนื่องมาจากผู้นำทางการเมืองที่รักษาการตำแหน่งหัวหน้าคณะรัฐบาลมิได้วางตนเป็นกลางอย่างแท้จริง แต่กระทำการแอบอิงสถาบันหลักของบ้านเมือง ปล่อยให้มีการนำกำลังทหารของชาติซึ่งมีไว้เพื่อป้องกันและพัฒนาประเทศมาแสดงพลังสนับสนุนสถานภาพทางการเมืองส่วนบุคคลจนทำให้เกิดการแบ่งพรรคแบ่งพวก
"จากเนื้อหาฎีกาผมจึงอยากถาม ศ.ดร.บวรศักดิ์ว่าฎีกาของพวกท่านเป็นฎีกาประเภทใดเป็นฎีกา “การเมือง”หรือ“ฎีกาโกลาหล” อย่างที่ท่านเรียกฎีกาของประชาชนที่กำลังจัดทำอยู่ขณะนี้หรือไม่ การที่ประชาชนร่วมยื่นทูลเกล้าฯถวายฎีกา กล่าวถึงความทุกข์แสนสาหัสจากปัญหาเศรษฐกิจ มีการยึดอำนาจโดยเผด็จการ จัดตั้งรัฐบาลไม่ชอบธรรมและได้กล่าวถึงความมุ่งหวังให้เกิดความสามัคคีในชาติ นอกเหนือจากขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ตนจึงเห็นต่างกับศ.ดร.บวรศักดิ์ ว่าฎีกานี้มิใช่ฎีการเมือง หรือฎีกาโกลาหลตามที่กล่าวหา แต่เป็นการทูลเกล้าฯถวายฎีการ้องทุกข์ขอพระบรมราชานุเคราะห์และฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษในฉบับเดียวกัน จึงน่าจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อองค์พระมหากษัตริย์ได้ตามธรรมเนียมปฏิบัติเดิมที่เรียกว่าโบราณราชประเพณี" พิชิต กล่าว
ทนายความทักษิณ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้การที่ ศ.ดร.บวรศักดิ์ กล่าวอ้างพระราชกฤษฎีกาวางระเบียบทูลเกล้าฯถวายฎีกาซึ่งตราขึ้นโดยรัชกาลที่ 6 เมื่อวันที่ 10 ม.ค.2457 ยังมีผลบังคับใช้อยู่ในปัจจุบันนั้น คลาดเคลื่อนต่อข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เนื่องจากการประกาศใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พ.ศ.2477 โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2478 เป็นไปตามม.3 และม.4 ซึ่งไม่เชื่อว่าผู้รู้ระดับศ.ดร.บวรศักดิ์ จะไม่รู้ว่ามีการยกเลิกและไม่มีผลบังคับใช้ในปัจจุบัน จึงอยากให้บุคคลทุกฝ่ายที่เข้าใจสภาพปัญ หานี้ช่วยกันตรวจสอบว่าเพราะเหตุใดเมื่อกฎหมายถูกยกเลิกไปแล้ว ศ.ดร.บวรศักดิ์ จึงยืนยันว่า ยังมีผลบังคับใช้ในปัจจุบัน เพื่อพิสูจน์ว่าข้อยืนยันในเรื่อง“สัจจะ”ของหลักวิชาการทางกฎหมายของศ.ดร.บวรศักดิ์ ยังมีอยู่หรือไม่
เขา กล่าวอีกว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม.259 บัญญัติว่าเมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว ถ้าจะทูลเกล้าฯถวายเรื่องราวต่อพระมหากษัตริย์ ขอรับพระราชทานอภัยโทษจะยื่นต่อรมว.ยุติธรรมก็ได้ ถ้อยคำว่า“ก็ได้”แสดงให้เห็นว่ากฎหมายไม่บังคับให้ยื่นผ่านรมว.ยุติธรรมเท่านั้น เมื่อกฎหมายไม่ได้บังคับรูปแบบ หลักเกณฑ์และวิธีการ จึงต้องถือตามราชประเพณีโบราณที่มีมาแต่สมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์ นอกจากนี้คำขอถวายฎีกาของประชาชนยังไม่มีถ้อยคำใดคัดค้านคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแต่อย่างใด นอกจากนี้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาม.259 ผู้มีสิทธิยื่นเรื่องราวนอกจากผู้ต้องโทษเองแล้วกฎหมายใช้คำในลักษณะรวมๆ กันว่า“ผู้ที่มีประโยชน์ที่เกี่ยวข้อง”เมื่อพิจารณาประกอบกับกรณีวิกฤตตุลาการที่มีผู้พิพากษา 193 คนร่วมทูลเกล้าฯถวายฎีกาแล้วเห็นว่า ประชาชนที่ร่วมลงชื่อทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาในคราวนี้มีความชอบด้วยกฎหมาย
"ผมเห็นว่าเนื้อหาของการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา ได้ยืนยันเนื้อหาเพื่อมุ่งหวังให้เกิดความสามัคคี สมานฉันท์ในชาติและวรรคสุดท้ายของคำขอถวายฎีกายอมรับว่าสุดแต่พระบรมราชวินิจฉัย ดังนั้นเห็นว่านายกรัฐมนตรี รมว.ยุติธรรม รมว.มหาดไทยและบุคคลในรัฐบาลตลอดจนผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย หากเห็นแตกต่างในประการใดก็ควรจัดทำบันทึกถวายความเห็น ไม่ควรที่จะใช้วิธีการใดๆ ระงับการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา หรือกระทำการใดๆให้สถานการณ์เลวร้าย ทำให้เกิดการเผชิญหน้าและขยายขอบเขตปัญหาออกไปไม่สิ้นสุด" พิชิต กล่าว

"บุญจง" ระบุประชาชนลงชื่อค้านฎีกาแล้ว 2 ล้านคน
วันเดียวกันนี้ (8 ส.ค. 52) ที่โรงแรม เอส ดี อเวนิว ถ.บรมราชชนนี เวลา 14.30 น. นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย กล่าวกรณีกลุ่มเสื้อเตรียมยื่นรายชื่อประชาชนที่เข้าชื่อถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 17 ส.ค.ว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอทำงานเชิงรุกในการชี้แจงประชาชนว่าตามขั้นตอน และวิธีการกฎหมายที่ถูกต้องเป็นอย่างไร และถ้าประชาชนมีความประสงค์จะถอนรายชื่อกระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่อำนวยความสะดวกเท่านั้น
“ยอดตัวเลขขณะนี้มีประมาณกว่า 2 ล้านคน บางจังหวัดมีเป็นแสน โดยเฉพาะใน จ.บุรีรัมย์ก็มีกว่า 5 แสนคนแล้ว และคาดว่าจะประเมินยอดประชาชนที่คัดค้านได้ไม่เกินวันที่ 15-16 ส.ค.” นายบุญจง กล่าว
เมื่อถามว่าจะนำรายชื่อประชาชนที่คัดค้านมาประกบกับรายชื่อประชาชนที่เข้าชื่อยื่นฎีกาหรือไม่ นายบุญจง กล่าวว่า จะไม่มีการตรวจสอบ และไม่มีการประกาศว่าผู้ที่มาลงชื่อยื่นฎีกาจะถูกลงโทษ แต่เพียงอธิบายว่าการกระทำดังกล่าวผิดกฎหมายอย่างไรเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แกนนำคนเสื้อแดงรู้ว่าการขั้นตอนการถวายฎีกาไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ตนจึงขอให้หยุดการกระทำดังกล่าว
เมื่อถามว่า กลุ่มคนเสื้อแดงเตรียมยื่นฎีกาในวันที่ 17 ส.ค.ซึ่งตรงกับวันที่ศาลฎีกาจะตัดสินคดีทุจริตกล้ายางนาย เนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย นายบุญจง กล่าวว่า เป็นสิทธิที่จะทำได้ แต่อยากให้บุคคลได้ทบทวนและฟังกระแสของสังคม ส่วนการชุมนุมถ้าพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมาย ก็เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่รัฐจะต้องดูแล

ทักษิณฟุ้งอีกเพื่อไทยกวาด ส.ส.โคราชยกจังหวัด
8 ส.ค. 52 - น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมน ตรี เปิดที่ทำการศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย (พท.) เขต 1 จ.นครราชสีมาและศูนย์ประสานงานแดงทั้งแผ่น ดิน “ D.D.CLUB “ ที่อาคารพาณิชย์ เลขที่ 442/245 ถ.ราชสีมา–โชคชัย สามแยกจักราช ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยมีส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย สมาชิกพรรคเพื่อไทย อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย เข้าร่วม
มีรายงานว่า ระหว่างนี้พ.ต.ท.ทักษิณได้โฟนอินเพื่อพูดคุยกับผู้เข้าร่วมงานตอนหนึ่งว่า พร้อมจะกลับมาทำงานให้พี่น้องเต็มที่ แต่วันนี้ขอเอาทีมงานไปตั้งฐานให้แข็งแรงก่อน ขอให้พี่น้องเลือก ส.ส.พรรคเพื่อไทยทุกคนทุกเขตตนจะได้กลับบ้าน พอกลับบ้านจะได้ไปทำงานรับใช้พี่น้องอย่างเต็มที่ ตอนนี้ สะสมความรู้ ประสบการณ์ ไว้
อดีตนายกฯ โฟนอินต่อว่า ที่นี่ทะเลทรายแท้ๆ ยังสามารถสร้างเมืองให้ยิ่งใหญ่ มีตึกที่สูงที่สุดในโลกและยังถมทะเลอีก น้ำไม่มีก็เอาน้ำทะเลมาทำน้ำจืดได้ มีแม้กระทั่งหิมะกลางทะเลทรายก็เนรมิตได้ ทุกอย่างเนรมิตได้หมด ถ้ามีมนุษย์มีความกล้า และหาเงินเป็น ไม่ใช่กู้อย่างเดียว โคราชมีความยิ่งใหญ่ ต้องพัฒนาอย่างเต็มที่ไม่ว่าเรื่องการเกษตร โดยเฉพาะเรื่องราคามันสำปะหลัง ข้าวโพด แต่วันนี้ ไม่มีราคา เพราะรัฐบาลทำไม่เป็น จนเกษตรกรเดือดร้อนหมด วันนี้เรื่องแก๊สโซฮอล์แทนที่จะได้ขยาย อย่างที่เอามันสำปะหลังไปทำแก๊สโซฮอล์ กิโลกรัมละ 2 บาทขึ้น ด้วยซ้ำไป ได้อย่างสบายๆ
พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินอีกว่า ยังมีเรื่องท่องเที่ยวแถว อ.ปากช่อง เขาใหญ่ ต้องคอยสำรวจความเป็นจริงเพื่อแหล่งท่องเที่ยวจะได้พัฒนาตัวเองได้ การเกษตรต้องพัฒนา นิคมอุตสาหกรรมก็ต้องพัฒนา โคราชต้องมีรถไฟฟ้าความ เร็วสูงจากกรุงเทพฯ มา และจากโคราชกระจายรถยนต์ไปได้หมด คิดว่าเอาไว้ตนกลับไปแล้วทำแน่นอน แต่สำ คัญต้องมี ส.ส.โคราชมากๆ ถ้าได้ทั้งจังหวัดก็ขอบคุณไว้ด้วย แต่ไว้ให้นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ สัก 1 เขต นอกนั้นของเราหมดเลย

"นพดล" เผย "ทักษิณ" เร่งจัดการทีวี 100 ช่อง คาดทดลองออนแอร์ต้นพ.ย.นี้ ด้านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการทำโทรทัศน์ 100 ช่อง ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ขณะนี้ทีมงานกำลังเร่งทำในเรื่องเทคนิค และเนื้อหา มีการประชุมกันต่อเนื่องหลายครั้ง เชื่อว่าช่วงต้นเดือนพ.ย. จะมีช่องทดลองออกอากาศได้แน่นอน โดยจะใช้ระบบเดียวกับช่องพีเพิลแชนแนล สามารถใช้จานรับสัญญาณเดียวกันได้ มั่นใจว่าโทรทัศน์ 100 ช่องนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อคนไทย จะเป็นการสื่อสาร รับเทคโนโลยีข่าวสารทั่วโลก เพราะมีเครือข่ายกว้าง ไม่ว่าจะเป็นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เยอรมัน ไต้หวัน และหลายประเทศในเอเชีย ในอนาคตมีแนวคิดให้คนไทยที่อยู่ต่างแดนจัดทำรายการทีวีเพื่อสะท้อนชีวิตความเป็นอยู่ในต่างแดน ข้อเสนอแนะในการอาศัยอยู่ต่างประเทศด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ส.ค. พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โพสต์ข้อความผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ โดยระบุถึงความคืบหน้าในการจัดทำทีวีดาวเทียมดังกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ไม่นานได้ประชุมทำโทรทัศน์ 100 ช่อง ถือเป็นงานใหญ่มากเพราะต้องส่งคนออกไปทั่วโลก แต่อย่างไรก็ตามทีมงานก็จะพยายามจะทดลองออกอากาศให้ได้ปลายปีนี้

บิ๊กจิ๋วแนะรอดูถ้อยคำในฎีกาเสื้อแดง
ด้าน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงเตรียมทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ที่ผ่านมาได้พูดไปแล้วหลายครั้ง และเป็นมุมมองของแต่ละฝ่าย ท้ายที่สุดเชื่อในน้ำพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ขึ้นอยู่กับพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ว่าจะมีพระบรมราชวินิจฉัยเป็นเช่นไร
พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า การทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น อยากให้ทุกคนรอดูก่อนว่า สาระของฎีกา ที่จะมีการทูลเกล้าฯ ถวายว่าจะมีสาระสำคัญมากน้อยเพียงใด สิ่งที่อยากเห็นมากที่สุดในช่วงนี้ คือ อยากให้ทุกคนลดความขัดแย้ง และใช้หลักกฎหมายเข้ามาแก้ปัญหา รวมถึงอยากเห็นรัฐบาลทำงานโดยมีประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุด เชื่อว่าในอีกไม่นานนี้ประเทศไทยจะกลับมามีความสุขอีกครั้ง จึงอยากให้ทุกคนอดทน
ส่วนอนาคตทางการเมืองของตนเองนั้น พล.อ.ชวลิตยอมรับว่าอายุมากแล้ว คงเล่นการเมืองไม่ไหว แค่ให้เล่นฟุตบอลอย่างเดียวยังแย่

ปชป.โวยแม้วกุข่าวรัฐบังคับถอนชื่อ
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ออกมาเคลื่อนไหวและโพสต์ในทวิสเตอร์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวหาว่ารัฐบาลขัดขวางการล่ารายชื่อเพื่อถวายฎีกาว่า เป็นเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ใส่ร้ายรัฐบาลโดยไม่มีข้อเท็จจริง การที่พ.ต.ท.ทักษิณอ้างว่ามีชาวบ้าน ทหาร ตำรวจ ไปฟ้องตัวเองถึงต่างประเทศ ทำให้สงสัยว่าคนเหล่านี้เป็นใครรู้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณได้อย่างไร
"ขอยืนยันว่าพฤติกรรมเช่นนี้ไม่มีรายชื่อที่ลงไปนั้นรัฐบาลไม่สามารถรู้ได้ว่ามีใครบ้าง จึงไม่มีเหตุผลที่รัฐบาลจะไปเจาะจงให้คนเหล่านี้ถอน และขอบอกว่าการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณครั้งนี้เป็นการสร้างกระแส ให้เห็นว่ารัฐบาลขัดขวางคนเสื้อแดงที่จะช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นการกุข่าวใส่ร้ายรัฐบาลเพื่อยึดพื้นที่สื่อของ พ.ต.ท.ทักษิณ เท่าน้น" นายเทพไทยกล่าว
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ส่วนการเสนอทำประชามติว่าจะให้ใครมาเป็นนายกรัฐมนตรี ระหว่าง นายอภิสิทธิ์ กับ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ตนคิดว่านายอภิสิทธิ์ ไม่อยู่ในฐานะจะมาเป็นคู่แข่งกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะสถานะของนายอภิสิทธิ์ วันนี้คือนายกรัฐมนตรีแต่สถานะของพ.ต.ท.ทักษิณ คือ นักโทษหนีคดีจึงไม่มีสิทธิที่จะนำ 2 คนนี้มาทำประชามติ

แจ๊คเปิดตัวรถโมบายต้านเสื้อแดง
เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ นำรถไฮเทคต้านฎีกาแดง มาจอดหน้าบ่อปลาคาร์ฟ อาคารรัฐสภา 1 รถกระ บะคันดังกล่าวถูกดัดแปลงช่วงท้ายให้ปรากฏภาพและข้อความเคลื่อนไหวได้ 3 ด้านๆละ 16 ภาพๆ ละ 3 วินาที โดยมีข้อความต่อต้านกลุ่มคนเสื้อแดง ที่เคลื่อนไหวล่าชื่อถวายฎีกาเพื่ออภัยโทษให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และชี้ให้เห็นถึงระบอบทักษิณ ว่ามีความเลวร้ายอย่างไร
นายวัชระ กล่าวว่า รถคันดังกล่าวใช้งบประมาณเพียง 7.5 แสนบาทเป็นเทคโนโลยีจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ทำขึ้นเพื่อต้องการรณรงค์ให้ประชาชนรับทราบถึงความเลวร้ายของระบอบทักษิณ และให้ความรู้แก่ประชาชน ถือเป็นคันแรกของประเทศไทย ซึ่งนายประจักษ์ แก้วกล้าหาญ รมช.คมนาคม ได้สนใจและสั่งผลิตจำนวน 1 คันเพื่อนำไปวิ่งในพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว
เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้สั่งให้ทำรถคันนี้ใช่หรือไม่ นายวัชระ กล่าวว่า ไม่มีใครสั่งตนให้ทำอะไรได้ การกระทำครั้งนี้เป็นเรื่องที่ตนคิดเองทำเอง

"เกียรติกร" ขู่เปิดซีดีแม้วหมิ่นเบื้องสูง
นายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณควรจะห้ามปรามกลุ่มเสื้อแดงไม่ให้มีการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา ที่ผ่านมาเคยขอร้องไปยังพ.ต.ท.ทักษิณหลายครั้งแล้ว เพราะไม่ต้องการให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมือง
"ถ้าวันที่ 17 สิงหาค มีกลุ่มเสื้อแดงแม้แต่คนเดียว นำรายชื่อทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา ผมจะเอาเรื่องคุณทักษิณแน่ ผมขอร้องท่านมาหลายครั้งแล้ว คุณทักษิณจะโดนผมฟ้องร้องในข้อหาหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างแน่นอนเพราะผมมีหลักฐานที่เป็นทั้งภาพและเสียงที่จะเอาผิดกับท่านได้แน่" นายเกียติกร กล่าว
นายเกียรติกรกล่าวว่า หลักฐานดังกล่าวเป็นซีดี 6 แผ่น มีทั้งภาพและเสียง ที่มีเนื้อหาชัดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ หมิ่นสถาบัน ซึ่งซีดีดังกล่าวยังไม่มีการเปิดเผยมาก่อน คนเสื้อแดงไม่ยุติก็จะนำซีดีดังกล่าวมาเปิดโปง และพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหากถูกฟ้องร้องฐานหมิ่นประมาท

นปช.ไม่สน "เกียรติกร" ขู่-ไม่เชื่อมีซีดี
ขณะที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดงกล่าวืนยันจะเดินหน้าทูลเกล้าฯ ถวายฏีกาต่อไป โดยไม่สนคำขู่ขอ่งนายเกียรติกร เพราะไม่เชื่อว่ามีซีดีดังกล่าวอยู่จริง ไม่เช่นนั้นคงถูกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิบไตย และฝ่ายรัฐบาลนำออกมาโจมตี และทำลายกลุ่มคนเสื่อแดงไปแล้ว ทั้งนี้ นายจตุพรกล่าวว่า จะแจ้งไปยังวิปฝ่ายค้านว่า อย่าให้นายเกียรติกรมาเคลื่อนไหวกับฝ่ายค้านอีกต่อไป
นายจตุพรกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุถึงกรณีที่คนเสื้อแดงทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการไม่สมควรเพราะเรื่องการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง ไม่ควรดึงสถาบันลงมา ว่า พล.อ.สุจินดา เป็นคนที่โชคดี เพราะเมื่อเกิดเหตุดการณ์พฤษภาทมิฬ เมื่อปี 2535 พล.อ.สุจินดา ก็ออกพระราชกฤษฎีกานิรโทษกรรมให้กับตัวเอง ทั้งที่ในเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต 40 คนและผู้สูญหายอีก 40 คน ซึ่งหากไม่มีกฎหมายฉบับนั้นพล.อ.สุจินดาก็จะถูกดำเนินคดีข้อหาฆ่าคนตายและวันนี้ก็จะใช้ชีวิตอยู่ในคุก ซึ่งเรื่องนี้แตกต่างกับพ.ต.ท.ทักษิณโดยสิ้นเชิง เพรา พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกยึดอำนาจและถูกกลั่นแกล้งใช้ขบวนการอยุติธรรมเล่นงาน ดังนั้น พล.อ.สุจินดาควรเห็นใจพ.ต.ท.ทักษิณบ้าง เพราะตัวเองได้ผ่านพ้นเหตุการณ์ในอดีตมาแล้ว

พันธมิตรเตือน พท.ระวังโดนยุบพรรค
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เลขาธิการ พรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.)กล่าวถึงการเคลื่อนไหวเข้าชื่อเพื่อทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ของกลุ่ม นปช.ว่า ไม่แปลกที่การล่าชื่อถวายฎีกาครั้งนี้นอกจากจะมีแรงต้านขยายวงมากขึ้นแล้ว กระแสยังตีกลับมาที่แกนนำ นปช.ซึ่งอาจถูกดำเนินคดีขอหายุยงสนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิด ซึ่งมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84 และการประทุษร้ายต่อองค์หระมหากษัตริย์ มาตรา 108 และ สส.ของพรรคเพื่อไทยหลายคนอาจถูกถอดถอนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 164 ข้อหา ส่อว่าจงใจปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบซึ่งประชาชนไม่น้อยกว่า 2 หมื่นชื่อ สามารถยื่นถอดถอนได้ หรือแม้แต่พรรคเพื่อไทย ซึ่งอาจจะโดนร้องเรียนให้มีการยุบพรรคเพราะมีพฤติกรรมที่ไม่เป็นไปตามวิถีทางแห่งรัฐธรรมนูญ

"ชทพ." ประเมินรัฐบาลได้ 5.0 คะแนน
นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลแถลงผลงาน 6 เดือนว่า การแก้ปัญหาของรัฐบาลด้านเศรษฐกิจถือว่าสอบผ่าน เพราะมีดัชนีชี้วัดต่างๆ ว่าเศรษฐกิจกำลังเขยิบตัวสูงขึ้น แต่สิ่งที่พรรคชาติไทยพัฒนาเป็นห่วง คือการแก้ไขปัญหาทางด้านการเมืองการปกครอง ซึ่งรัฐบาลยังไม่มีมาตรการที่เป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การแก้ไขปัญหาของพ.ต.ท.ทักษิณ
ดังนั้นการแก้ไขปัญหาทางการเมืองจึงได้แค่ 5.0 จากคะแนนเต็ม 10 เพราะวันนี้รัฐบาลยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ใด ๆ ที่ชัดเจน เพราะความรู้สึกของประชาชนยังแตกแยกกันอยู่อย่างมาก อย่างเช่นการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาของกลุ่มเสื้อแดงและการคัดค้านการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา พรรคชาติไทยพัฒนาอยากเห็นการแก้ไขปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจควบคู่กันไป ไม่เช่นนั้นประชาชนและข้าราชการบางส่วนก็จะรอและไม่ทำอะไรเลย ใส่เกียร์ว่างเพราะยังรอพ.ต.ท.ทักษิณกลับมา

เสื้อแดงอุดรฯ นัดชุมนุมใหญ่ 9 ส.ค.
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 7 สิงหาคม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางมาที่สถานีวิทยุชมรมคนรักอุดร 97.50 เมกกะเฮิร์ต หนองเหล็ก ซอย 9 เทศบาลนครอุดรธานี โดยมีนายขวัญชัย สาราคำ หรือไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร และสมาชิกชมรมกว่า 100 คน ต้อนรับ ทั้งนี้ได้มอบดอกกุหลาบสีแดงให้แก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ด้วย นายขวัญชัย กล่าวว่าในวันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคมนี้ ชมรมคนรักอุดร จะจัดการชุมนุมใหญ่อีกครั้ง โดยจะตั้งเวทีปราศรัยขนาดใหญ่ ที่ลานปูน สนามทุ่งศรีเมือง เทศบาลนครอุดรธานี ใช้ชื่องานว่า “แดงทั้งแผ่นดิน ร่วมลงชื่อถวายฎีกา” ในวันนั้นจะมีการเปิดเวทีพร้อมกันทั่วประเทศ 9 จังหวัดด้วยกัน และพ.ต.ท.ทักษิณจะโฟนอินทร์เข้ามาคุยกับชาว จ.อุดรธานี และจังหวัดใกล้เคียงที่มาร่วมงานด้วย

ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก: เว็บไซต์คมชัดลึก, เว็บไซต์ไทยรัฐ